posttoday

เสร็จหรือสำเร็จ แบบไหนที่คุณต้องการ

19 พฤศจิกายน 2561

องค์กรต้องการพนักงานที่ทำงาน “เสร็จ” หรือทำงาน “สำเร็จ” มากกว่ากัน?

เรื่อง  กันย์ ภาพ  pixabay

องค์กรต้องการพนักงานที่ทำงาน “เสร็จ” หรือทำงาน “สำเร็จ” มากกว่ากัน? ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ ลองมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของการทำงานเสร็จหรือทำงานสำเร็จเสียก่อน

อริญญา เถลิงศรี Chief Capability Officer บริษัท SEAC ศูนย์พัฒนาภาวะผู้นำและผู้บริหารระดับสูง กล่าวว่า การทำงานเสร็จ ในภาษาอังกฤษอาจเทียบได้กับคำว่า Output ซึ่งแปลตามตัวได้ว่าผลผลิต นั่นคือการที่พนักงานสามารถทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างครบถ้วนและส่งมอบทันเวลาตามที่กำหนด ในขณะที่การทำงานให้สำเร็จนั้น ในภาษาอังกฤษอาจเปรียบได้กับคำว่า Outcome หรือผลลัพธ์ คือการที่ผลงานของพนักงานตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรและสามารถนำผลลัพธ์ของงานที่ทำนั้นไปต่อยอดเพื่อสร้างผลลัพธ์อื่นๆ ให้กับองค์กรต่อได้ อีกนัยหนึ่งคือ Output คือการได้มาซึ่งงานตามปริมาณที่กำหนดไว้ (Quantity) แต่ Outcome คือการได้มาซึ่งผลงานที่มีคุณภาพ (Quality) ตามวัตถุประสงค์

เมื่อเข้าใจในความหมายตรงกันแล้ว คุณคิดว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญเพื่อการได้มาซึ่งพนักงานที่จะช่วยให้องค์กรก้าวหน้าไปได้อย่างยั่งยืน

เพื่อให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น จึงขอยกตัวอย่างให้เห็นจากเรื่องของการศึกษาในโรงเรียนหรือการอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรซึ่งมี Output คือการผลิตคนที่มี Competency (มีความรู้) แต่ Outcome คือการสร้างให้คนมี Capability (ความสามารถในการนำความรู้ที่ได้รับหรือที่มีไปประยุกต์ใช้ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์หรือผลลัพธ์ต่อไป) ทั้งนี้ก็เพราะการสร้างให้คนมีเพียงความรู้อย่างเดียวไม่ได้ช่วยต่อยอดให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด เพราะเขาไม่สามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริงจึงไม่เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในอีกภาพหนึ่ง Output คือสินค้า บริการ ผลกำไรขาดทุนหรือผลประกอบการ ในขณะที่ Outcome คือเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้สินค้าและบริการนั้นๆ ในเชิงความหมาย ความแตกต่าง ความสัมพันธ์ ยกตัวอย่างเช่นในการสร้างทางด่วน Output ที่ได้คือถนนหรือทางด่วนที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม แต่ Outcome คือการที่คนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นจากการใช้ทางด่วนนั้นๆ ทำให้ลดระยะเวลาในการอยู่บนท้องถนน และมีเวลาทำงานหรือสามารถใช้เวลาไปทำสิ่งอื่นได้มากขึ้น แต่ถ้าหากสร้างทางด่วนแล้วผู้ใช้ถนนไม่ได้รับความสะดวก ไม่ได้ทำให้เดินทางเร็วขึ้น นั่นก็แปลว่าการสร้างทางด่วนครั้งนั้นมีแต่ Output ไม่มี Outcome หรืออีกนัยหนึ่งคือทุก Output ไม่ได้ก่อให้เกิด Outcome นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถละเลยความสำคัญของ Output ไปได้ เพียงแต่เราสามารถที่จะเลือกจัดลำดับความสำคัญได้ นั่นก็เพราะทั้งเรื่องของ Output และ Outcome ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น ต่างกันแค่ระยะเวลาในการเกิดผล โดย Output นั้นใช้เวลาสั้นกว่า Outcome ในขณะที่ Outcome ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากกว่า

พูดง่ายๆ ก็คือทั้งพนักงานที่ทำงานเสร็จและพนักงานที่ทำงานได้สำเร็จล้วนแล้วแต่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณต้องการเห็นภาพขององค์กรดำเนินธุรกิจเห็นผลแค่วันต่อวัน หรือคุณต้องการวางแผนระยะยาว สร้างคนที่จะสามารถมาพัฒนาความสำเร็จขององค์กรได้อย่างยั่งยืนหรือไม่