posttoday

นนทกช ปัญญาปัทม์ +วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ ความสำเร็จทางธุรกิจที่ใช้ความรักนำทาง

16 มิถุนายน 2561

แม่ลูกผูกพัน ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ความสำเร็จของธุรกิจของหนุ่มที่ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นย่อมมีเบื้องหลังที่คอยผลักดันและหนุนหลังด้วยความรัก “บ๊วยคืนชีพ”

โดย วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์/นนทกช ปัญญาปัทม์

แม่ลูกผูกพัน ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ความสำเร็จของธุรกิจของหนุ่มที่ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นย่อมมีเบื้องหลังที่คอยผลักดันและหนุนหลังด้วยความรัก “บ๊วยคืนชีพ” ผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นระดับพรีเมียม แบรนด์แม็คแม็ค (MagMag) ที่นำขนมไทยยุคเก่า มาขยายความใหม่ในบริบทที่จี๊ดจ๊าดปราดเปรียว แค่ชื่อขนมก็สุดจะจี๊ดแล้ว เช่น บ๊วยคืนชีพ, ลูกไหนองุ่น, พรุนไหมจ๊ะ และมะม่วงสีสวย

ไม่แปลกใจที่ผ่านมาบ๊วยคืนชีพคว้ารางวัลมากมาย โดยในปี 2557 ได้รับรางวัล SMEs ดาวรุ่ง จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดเล็ก-สสว.และปี 2558 ได้รางวัลกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รางวัลมาตรฐาน SMEs ครั้งที่ 7 จากที่เดียวกัน

มาดูความสำเร็จที่เกิดจากความผูกพันและการส่งสืบทอดแรงบันดาลใจของกันและกันในครอบครัวระหว่างลูกชายกับแม่ นนทกช ปัญญาปัทม์ และ วิไลพรรณ ติยะวัฒน์

นนทกช ปัญญาปัทม์เล่าถึงมารดา ต้นแบบความรักและแรงบันดาลใจ

นนทกช ปัญญาปัทม์ +วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ ความสำเร็จทางธุรกิจที่ใช้ความรักนำทาง

“แม็ค” นนทกช ปัญญาปัทม์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวย์ตาน่า เจ้าของแบรนด์ MagMag ขณะเดียวกันเขาเป็นบุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแห่งปี 2558 รางวัลอันทรงเกียรติที่ สสว.มอบให้ มาฟังชายหนุ่มเล่าถึงความสัมพันธ์ที่เป็นรากฐานของความสำเร็จ นั่นก็คือคุณแม่และครอบครัวปัญญาปัทม์

“ครอบครัวของเราอบอุ่น ผมมีพี่ชาย 1 คน ที่บ้านทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ เช่น กล้อง และเลนส์ต่างๆ เป็นจุดที่ผลักดันให้ผมเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทว่าต่อมาจึงเริ่มสนใจด้านแบรนด์ดิ้งและมาร์เก็ตติ้ง”

เบื้องหลังความสำเร็จคือคุณแม่ นนทกชเล่าถึงมารดา วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ ว่า สนิทกันมาก คุยกันในทุกเรื่อง สมัยเรียนหนังสือที่โรงเรียนสวนกุหลาบ แม่ไปรับ-ส่งจากบ้านและโรงเรียนมาโดยตลอด โตขึ้นจึงเริ่มห่างออกมา แต่ก็ยังทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเสมอ ได้แก่ การไปวัดทำบุญ ซึ่งคุณแม่ก็จะให้พาเพื่อนๆ ไปด้วย

บริบทแห่งความสำเร็จ คือความดี ความจริง และความมุ่งมั่น ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตคุณแม่ นนทกชเล่าว่า มารดาชื่นชอบการทำอาหาร ทุกวันตื่นเช้ามาจะได้เห็นคุณแม่สำแดงเดช (ฮา) ไปตลาดเลือกซื้อของตามฤดูกาล อะไรที่อร่อยน่ากิน ก็สรรหามาทำ และปรุงเป็นเมนูต่างๆ เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เรื่องความมุ่งมั่นที่จะให้ได้ของดีที่สุด เพื่อทำอาหารที่อร่อยที่สุด รวมทั้งการซื้อผักผลไม้และอาหารตามฤดูกาลที่ดีที่สุดนี้ ได้ต่อยอดต่อมาให้เขามีความพิถีพิถันในการเลือกสรรตามไปด้วย

“อย่างเช่นผักคะน้า ผักคะน้ามีหลายสายพันธุ์ แค่เปลี่ยนสายพันธุ์ เปลี่ยนฤดูในการกิน แค่นี้รสชาติก็ไม่เหมือนกันแล้ว แม่จะสอนตลอดว่า เรื่องพวกนี้ต้องใส่ใจ เป็นเรื่องละเอียด ที่พอเรามาทำแบรนด์อาหารของตัวเองเราก็เลยยิ่งรู้” นนทกช เล่า

สำหรับคุณแม่เป็นต้นแบบให้ในหลายเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องความชอบและความลุ่มหลงต่อการคัดสรรวัตถุดิบอาหารเท่านั้น แต่คือการใช้ความรักนำทาง ใช้หัวใจมุ่งมั่นทำในสิ่งที่โฟกัสให้สำเร็จ ถ้าไม่รักไม่ชอบ คงทำอาหารให้ออกมาดีไม่ได้ นี่คือเคล็ดลับที่มีหัวใจและความรักเป็นส่วนประกอบสำคัญ กุญแจหลักที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ธุรกิจเป็นไปได้และคว้ารางวัลมากมายอย่างที่ผ่านมา

แม่จิตใจดี เป็นผู้ให้ เอื้อเฟื้อ ก็จะเห็นแม่ในเวอร์ชั่นนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แม่ยังมีใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย เรื่องของการลงทุนในธุรกิจนี้ หลายอย่างได้มาจากแม่ ทั้งกล้าได้ทั้งกล้าเสีย และบางอย่างที่ต้องกล้าแลก”

วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ เล่าถึงลูกชายบ๊วยคืนชีพ

นนทกช ปัญญาปัทม์ +วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ ความสำเร็จทางธุรกิจที่ใช้ความรักนำทาง

วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ เล่าให้ฟังถึงลูกชายคนสุดท้อง เริ่มจากรูปแบบการเลี้ยงดู คุณแม่ใช้ “อะไร” เลี้ยงลูก (ฮา) คุณแม่ตอบว่า สมัยเด็กๆ ส่วนมากจะคอยดูให้อยู่ในกฎระเบียบ คอยตามประกบดูในระยะใกล้ชิดบ้าง ห่างๆ บ้าง แล้วแต่สถานการณ์ แต่จะไม่ปล่อย จะให้เล่นยังไงก็ดูแลอยู่ในสายตาเสมอ

“แม็คสมัยเล็กๆ ไม่ดื้อ ไม่ซน เป็นเด็กที่ชอบไหว้พระ”

เธอบอกว่า จุดเด่นของแม็คในสายตาของคุณแม่ คือความเป็นเด็กเรียนเก่ง เป็นหัวหน้า (ห้องในชั้นเรียน) และมีความเป็นผู้นำสูง อัธยาศัยดี

“กับลูกชายคนนี้ตั้งความหวังกับเขาไว้ว่า เขาจะไปจนถึงที่สุดในจุดที่เขาต้องการจะไปถึง สำหรับธุรกิจขนมและของกินเล่น ซึ่งกระโดดจากธุรกิจครอบครัวไปเลยนั้น ในช่วงแรกก็ทำใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของบุตรชาย ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เริ่มจากช่วงแรกที่ได้มีโอกาสเก็บเล็กผสมน้อยสูตรขนมไทย สาคูมะพร้าวอ่อน

แม็คไปเจอสาคูมะพร้าวอ่อนอร่อย แค่นั้นแหละ อยู่ๆ ก็ไปซื้อมะพร้าวมา 10 ลูก ซื้อน้ำตาลซื้ออะไรมาทำ แม่ก็บอกว่าจะทำได้ยังไง เธอไม่เคยทำ แต่เขาก็ทำ ทำขึ้นมาทีแรกยังไม่อร่อย ทำจนอร่อย ช่วงแรกไปจ้างเด็กมาช่วยขาย ทำสนุกๆ แบบใส่ถาดไปขาย ต่อมาก็เช่าหน้าร้านขาย สนุกไปเลย ต่อมาเขาก็มาบอกแม่ว่า จะเปิดร้านแล้ว นี่ล่ะจุดเริ่มต้นของแม็ค”

คุณแม่วิไลวรรณ เล่าต่อไปว่า ภูมิใจที่ลูกชายสามารถก่อตั้งกิจการและบริหารจนประสบความสำเร็จ แน่ล่ะที่หนทางยังต้องเดินต่อไปอีกไกล แต่ปั้นขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็หายเหนื่อยแทนลูก และนอกจากจะเป็นคนหนุ่มที่มีความคิดกว้างไกลแล้ว สิ่งที่คุณแม่ภูมิใจในตัวลูกชายไม่น้อยไปกว่ากัน ก็คือความมีจิตเมตตา ชอบทำบุญ ทำมาหาได้เท่าไร ส่วนหนึ่งต้องปันส่วนเพื่อบริจาคการกุศล

นนทกช ปัญญาปัทม์ พ่อแม่ทำให้รู้ว่า การให้คือความสุข

นนทกช ปัญญาปัทม์ +วิไลพรรณ ติยะวัฒน์ ความสำเร็จทางธุรกิจที่ใช้ความรักนำทาง

กลับมาที่นนทกช สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่แล้ว สิ่งที่อยากบอกแต่ยังไม่เคยบอก คือความประทับใจในตัวคุณแม่รวมทั้งคุณพ่อด้วย ครอบครัวทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ภาพยนตร์ เมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง เขาได้พบเอกสารกู้ยืมที่มีคู่สัญญาจำนวนมากมาย ซึ่งได้มากู้ยืมเงินจากที่บ้านไป เรียกได้ว่าเอกสารกู้ยืมเป็นปึ๊งๆ เป็นการให้ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะไม่ได้คืนหรือไม่ มูลหนี้รวมแล้วเป็นหลายล้านบาท แต่พ่อและแม่ก็ให้ยืมไป เพราะอยากช่วยเหลือ

“เราไม่ได้ถูกเอาเปรียบหรอกนะ แต่ว่าเราให้ เพราะเราให้และเรามีความสุข ในบางช่วงเงินเราก็ไม่ได้มีเยอะนะ แต่ถ้าเราสามารถช่วยใครได้ พ่อและแม่ไม่เคยรั้งรอ นี่คือต้นแบบแห่งความเสียสละอย่างแท้จริง และเป็นเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจมาก”

อีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจนนทกช ก็คือคติที่ครอบครัวยึดถือว่า ความดีสำคัญกว่าความเก่ง ทั้งพ่อและแม่ของเขาเป็นลูกคนโตของครอบครัว ต่างคนต่างเรียนมาน้อย ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงานเลี้ยงน้องทั้งคู่ พ่อและแม่เป็นตัวอย่างของคนทำงานที่เติบโตจากประสบการณ์ตรง เป็นสิ่งที่ยากเรียนรู้จากในห้องเรียน

“ถ้าถามผมถึงเบื้องหลังความสำเร็จ ผมให้เครดิตพื้นฐานครอบครัวของเรา ผมได้เรียนรู้ถึงการเป็นคนดี มุ่งมั่น และกล้าฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ อีกความซื่อสัตย์ ขยัน อดทนและประหยัด สูตรสำเร็จของพ่อค้าชาวจีนรุ่นเก่านี่แหละครับ ที่ทำให้ผมมีกำลัง เดินไปสู่ความสำเร็จ”

แม่ พ่อ และครอบครัว คือต้นแบบความประทับใจและเบื้องหลังของความสำเร็จ สุดท้ายนนทกชเล่าว่า อยากฝากไว้สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ สิ่งที่เราต้องทำวันนี้ คือสิ่งที่ต้องทำวันนี้ เพราะอีกไม่นานมนุษย์ทุกคนก็ต้องจบชีวิตขัยของตนด้วยกันทั้งนั้น เพราะเช่นนั้นจึงต้องรีบทำรีบตัดสินใจในเวลาที่เรามีอยู่ อย่าให้ภายหลังต้องมานั่งเสียดายเวลาที่ผ่านไป

“ไม่เฉพาะแค่เรื่องธุรกิจ แต่ในทุกเรื่องที่เราเติบโตขึ้นมา แม้แม่พ่อจะไม่ได้รู้ทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งจากพ่อและแม่ของทุกคน เชื่อว่าก็คือความหวังดีที่ลูกๆ ทุกคนสัมผัสได้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อพ่อแม่ในทุกอย่างหรือทุกเรื่อง แต่ให้รับพลังความรักจากเขาในทุกเรื่องและในทุกรายละเอียดของชีวิต”

ส่งท้ายด้วยคุณแม่คนสวย วิไลวรรณเล่าว่า ภูมิใจ โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจของลูกเติบโตมาถึงวันนี้ได้ รวมถึง ลูกเติบโตมาถึงจุดนี้ได้