posttoday

เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ภารกิจเพื่อเด็กอันยิ่งใหญ่ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร + สุริยน ศรีอรทัยกุล

07 ตุลาคม 2560

สองเพื่อนซี้ต่างวัย ฝัน-ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล แห่งบิวตี้เจมส์

โดย วราภรณ์ ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล

 สองเพื่อนซี้ต่างวัย ฝัน-ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล แห่งบิวตี้เจมส์

 ทั้งสองเป็นหนึ่งในกรรมการผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิพิทักษ์และคุ้มครองเด็ก คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการผลักดันร่างกฎหมายการคุ้มครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อป้องกันเด็กบริสุทธิ์ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งผู้ริเริ่มสนใจผลักดันกฎหมายด้านนี้เป็นพิเศษคือ สุริยนที่รู้จักกับ มร.ฟิลลิป ซอเรนเซ่น ที่ปรึกษาผู้ถวายงานสมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งราชอาณาจักรสวีเดน

 โดยฟิลลิป เป็นผู้ผลักดันร่างกฎหมายนี้ที่สวีเดน และได้เอ่ยกับสุริยนว่า ในฐานะที่เขาทำธุรกิจประสบความสำเร็จแล้ว เขาอยากทำอะไรเพื่อสังคมไหม ทำให้สุริยนฉุกคิดถึงปัญหาที่เมืองไทยเป็นแหล่งผลิตสื่อลามกอนาจารในเด็ก อีกทั้งตัวบทกฎหมายเป็นเรื่องที่ไกลตัวสุริยนมาก

 เขาจึงเอ่ยปากชักชวนเพื่อนสนิทคือ ดร.ฝัน ที่รู้เรื่องราวเป็นอย่างดี และนับเป็นโอกาสอันดีที่ ดร.ฝันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสมาชิก สนช. (สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) ที่อายุน้อยที่สุด จึงจับมือเป็นทีมทำงานผลักดันร่างกฎหมายนี้อย่างจริงจัง และทำสำเร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว นำความปลาบปลื้มให้คณะทำงานที่ต่อสู้กันยาวนานถึง 8 ปีเต็ม

เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ภารกิจเพื่อเด็กอันยิ่งใหญ่ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร + สุริยน ศรีอรทัยกุล

 ดร.ฝันสะท้อนถึงปัญหาผลักดันกฎหมายการคุ้มครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อป้องกันเด็กๆ ว่า ปัญหาด้านการค้าผู้หญิงในเมืองไทยยังมีอยู่ แม้บางครั้งเป็นการบังคับค้าประเวณี แต่ส่วนใหญ่เป็นการสมัครใจ แต่กรณีในเด็กที่ไม่มีความสามารถในการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง ไม่มีแม้หนทางสู้ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกัน

 "ในต่างประเทศด้านสิทธิเด็กสำคัญมากๆ แต่ในเมืองไทยยังมองว่าภาพเด็กโป๊เป็นเรื่องเล่นๆ เช่น การโพสต์รูปในวัยเด็กกำลังนั่งอาบน้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ ซึ่งในต่างประเทศจะไม่เปิดเผยรูปลูกตัวเองกำลังเปลือยเด็ดขาด ทั้งๆ ที่ไม่ผิดกฎหมายเป็นภาพที่มีทุกบ้าน แต่ก็ไม่ควรโพสต์ในสื่อโซเชียลเพราะอาจจะมีคนโรคจิตไปเก็บภาพเด็กๆ ไว้เป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวก็ได้

 ปัญหาที่สำคัญ ดร.ฝันแจกแจงว่าคือคนไทยหรือชาวต่างชาติที่มาหาประโยชน์จากเด็กไทย นอกจากจะข่มขืน และซื้อบริการแล้ว ยังถ่ายภาพเด็กไปจำหน่ายต่อทางอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอีก หากเมืองไทยไม่มีกฎหมายรองรับ การครอบครองสื่อลามกผู้ใหญ่และเด็กจะไม่ผิดกฎหมาย

 เธอเกรงว่าเมืองไทยก็ยังตกเป็นแหล่งผลิตภาพลามกอนาจารในเด็กอยู่ แม้การต่อสู้จะมาสำเร็จในปีที่ 9 ที่มีการผลักดันแก้ไขพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยเรื่องสื่อลามกอนาจารในเด็ก รวมทั้งมีการคุ้มครองเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศทันที พอวันที่ร่างกฎหมายว่าด้วยเรื่องนี้ผ่าน ทั้งคู่รู้สึกดีใจมาก

 “กว่า 80% ของภาพสื่อลามกอนาจารเด็กในโลก เป็นเด็กอายุเพียง 2 ปี ถึง 12 ปี มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เราอยากดูแลเด็กกลุ่มนี้ควรได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมาย แต่สังคมรับรู้เรื่องนี้น้อยมาก ในบางกรณี เด็กทารกแค่สองเดือนก็โดนละเมิดแล้ว ซึ่งบางคนมองว่าเด็กผู้หญิงวัย 2 เดือนจะไปยั่วยุใครได้ แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายโรคจิตชอบเสพภาพเหล่านี้ ซึ่งเด็กเล็กๆ หากเขาโดนล่วงละเมิด จะเกิดปมติดในใจเขา เด็กจะโตมามีปมลึกในใจ ฆ่าตัวตายหรือขายบริการไปเลย

 "เด็กผู้ชายก็อาจไปทำแบบนี้กับคนอื่นก็ได้ ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนเด็กของไทยตอนนี้ ก็โดนละเมิดทางเพศมาก่อน ด้วยกฎหมายหลายๆ ฉบับที่ สนช.ลงมติผ่านสภา ตอนนี้เราขยับมาที่รายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐมาเป็นเทียร์สองเฝ้าระวัง"

 ดร.ฝันย้ำว่าคนไทยต้องสร้างการตระหนักรู้ว่า เมืองไทยมีกฎหมายคุ้มครองเด็กด้านสื่อลามกอนาจารในเด็กแล้ว

 "ตอนนี้ทุกคนฟังเฉยๆ โดยเขาไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ เราผ่านเรื่องนี้มา 10 ปี ฟังเรื่องเหล่านี้มาเยอะว่า บ้านเราเป็นแหล่งผลิตเลยนะ ส่งภาพไปตามอินเทอร์เน็ต เราเคยเป็นแหล่งผลิตส่งออกไปทั่วโลก เพราะเด็กเราคนมองว่าราคาถูกเลยในการขายบริการ”

 ทั้งสองช่วยกันเล่าถึงการทำงานกันมาอย่างหนักถึง 8 ปี แต่ก็ไม่ย่อท้อ พยายามแก้ไขประมวลกฎหมาย 287/1 เดิมคือกฎหมายระบุว่า มีในครอบครองไม่ผิด แต่ถ้าขายผิด เมื่อพอร่างกฎหมายผ่านสื่อลามกในเด็กห้ามทุกอย่าง 100% คือถ้ามีครอบครองถือว่าผิดกฎหมายทันที ส่งต่อมีโทษมากขึ้น และถ้าเป็นผู้ผลิตมีโทษหนักที่สุด สุริยน เสริมว่า

 “ถ้าทุกคนรู้ว่าเรามีกฎหมายคุ้มครองเด็ก ต่างชาติที่ล่อลวงเด็กไทยและจะเอาภาพไปขายจะมีน้อยลง แม้มีแอบๆ  อยู่ แต่อาจทำให้พวกเขาเกรงกลัวมากขึ้น เพราะหากพบว่าทำผิดมีการดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย ตอนนี้พวกเราจึงต้องช่วยกันสร้างความตระหนักรู้

 "เวลามีเด็กอยู่ในรูปสื่อลามก เราไม่รู้หรอกว่าเด็กอายุเท่าไหร่ แต่พวกเราสนใจเด็กเล็กมากกว่า ซึ่งในกฎหมายเขียนไว้มีเจตนาพิเศษที่ชัดเจน คือสื่อลามกเด็กคือจูงใจให้เด็กยอม เช่น ให้ 200 บาทมาที่ห้องหน่อยแล้วมีการล่อลวงเด็ก แล้วถ่ายภาพบางอย่างเก็บไว้ แล้วทำการเผยแพร่อันนี้ผิด เพราะเด็กอายุไม่ถึง 18 มักใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตอนนี้เราห้ามโพสต์ภาพลามกในเด็ก ประเทศไทยประกาศว่า ต่างชาติจะมาทำอย่างนี้กับเด็กไทยไม่ได้ ถือว่าผิดกฎหมายแล้วนะ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมปีที่แล้ว"

เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ภารกิจเพื่อเด็กอันยิ่งใหญ่ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร + สุริยน ศรีอรทัยกุล

‘หนึ่งเป็นคนรักชาติและเป็นคนดีมาก’ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร

 อาจเรียกได้ว่า ทั้ง ดร.ฝัน และ หนึ่ง-สุริยน เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพราะภารกิจที่ร่วมด้วยช่วยกันฝ่าฟัน ถือเป็นเรื่องไม่ง่าย

 ดร.ฝันกล่าวถึงความซี้ปึ้กกับเพื่อนรุ่นน้อง หนึ่ง-สุริยน ว่าทั้งสองรู้จักกันในงานสังคม เธอในฐานะพี่ที่อายุห่างกัน 6 ปีออกงานสังคมมาก่อน แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันในงานสังคมมากนัก

 “บางทีเราเจอกันตามงาน ใช่ว่าคนเราจะคบกันเป็นเพื่อนกันง่ายๆ นะคะ ฝันรู้จักคนเยอะแต่ก็เป็นเพื่อนกับคนยากมาก เพราะเราเจอกันแค่แวบๆ แต่กับคุณหนึ่งเขาเป็นเพื่อนและน้องที่น่ารัก เขาเป็นคนฉลาด เป็นคนมีอุดมคติ เขาไม่ใช่คนกลวง คุยกันแบบพี่น้องแล้วรู้ว่าคนนี้มีอะไร คือเก่ง หนึ่งมีอะไรคุยเยอะมาก เพราะเขามีความรู้ แม้เราจะห่างกัน 6 ปี แต่เราเหมือนกันคือ มองโลกแง่ดีทั้งคู่ ฝันเป็นคนตลก หนึ่งก็เป็นคนตลก สรุปคือเราอารมณ์ดีทั้งคู่ เรามักขำในเรื่องเดียวกัน เราเลยคบกันได้ (หัวเราะ)”

 คบกันมายาวนานมากกว่า 10 ปี แน่นอนย่อมมีเรื่องราวที่ ดร.ฝันรู้สึกประทับใจในเพื่อนรุ่นน้องคนนี้มากมาย หนึ่งเรื่องที่โดดเด่นคือ สุริยนเป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆ

 “ฝันมีเพื่อนเยอะระดับหนึ่ง แต่หนึ่งถือเป็นคนที่พิเศษด้วยจิตใจที่ดีของเขา เขามีอุดมการณ์สูงมาก ทำอะไรทำจริงจัง วันที่ผ่านร่างกฎหมายวาระที่ 3 นับการประชุมในรอบ 10 ปี มากถึง 500 ครั้ง ทำให้เรานัดเจอกันบ่อยเพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้ จึงยิ่งสนิทกันมาก เบื้องบนอาจเห็นความตั้งใจจริงของเรา บางครั้งฝันก็คิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยน่ารัก แต่เราจริงใจ คนอื่นอาจโกรธในเรื่องบางเรื่องที่ฝันพูดไป แต่สำหรับหนึ่งเขารับฝันได้ เพราะเพื่อนบางคนพูดผิดหูนิดผิดหูหน่อยไม่ได้เลย ฝันจึงค่อนข้างระวังคำพูด แต่พออยู่กับหนึ่ง ฝันรู้สึกสบายมาก รู้สึกเราเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ หนึ่งเป็นคนที่เก่งมากค่ะ”

 ดร.ฝัน บอกว่า เธอรู้สึกเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะเพื่อนเธอคนนี้ค่อนข้างร่ำรวยและเก่ง ฐานะดี เธอจึงไม่รู้สึกเป็นห่วง แต่บางครั้งด้วยเขาเป็นนักธุรกิจที่ทำงานค่อนข้างเยอะไป ต้องเดินทางไปโน้นไปนี่ตลอดเวลา เธอจึงอยากให้สุริยนออกกำลังกายบ้าง

 "เพราะอายุก็ขยับขึ้นทุกๆ ปีจึงควรต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น แม้คุณหนึ่งจะหน้าเด็กก็ตาม (ยิ้ม)"

เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ภารกิจเพื่อเด็กอันยิ่งใหญ่ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร + สุริยน ศรีอรทัยกุล

‘พี่ฝันเป็นผู้ที่มีคุณธรรมในใจสูง’ สุริยน ศรีอรทัยกุล

 ถึงเวลาที่สุริยนพูดถึง ดร.จินตนันท์ ทายาทสุดที่รักของท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตร คุณข้าหลวงผู้ใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า เขารู้จัก ดร.จินตนันท์ นาน 10 ปี ตั้งแต่กลับมาจากเรียนปริญญาโท ที่สหรัฐอเมริกา ได้เริ่มออกงานสังคม และได้เจอเพื่อนรุ่นพี่คนนี้

 “พี่ฝันเป็นเพื่อนรักกับพี่จอย-อวัสดา ปกมนตรี พอพี่ฝันเริ่มทำทีวี พี่จอยเลยมาชวนผมไปทำรายการทีวีด้วยกัน ตอนนั้นผมอายุ 22 ปี ก็อยากทำรายการทีวีเพราะอยากทำสนุกๆ ผมก็เลยไปเป็นพิธีกรรายการโซเชียล นิวส์ พลัส มี หญิง-ศศมณฑ์ สงวนสิน อีกคน เราทำพิธีกรร่วมกัน 4 คน เหมือนนั่งคุยกัน นั่งอ่านข่าว มีงานเลี้ยงอะไรก็เล่าข่าวไป

 "ซึ่งรุ่นพี่ๆ เขาเก่งกันมาก เชี่ยวชาญทุกด้าน สคริปต์แผ่นเดียวเขาก็ไปกันได้ (หัวเราะ) เราก็คุยเมาท์ๆ กัน พูดจาเป็นเพื่อนกัน ปรากฏคนชอบดูมาก แต่มีพิธีกรบางคนเรียบร้อยมาก นั่งคั่นระหว่างผมกับพี่ฝัน แต่เราก็ยังยื่นหน้ามาแซวกันตลอด (หัวเราะ) ทำงานช่วงนั้นสนุกสนานมาก คนดูชอบ จัดนานถึง 3 ปีทีเดียว”

 นอกจากเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้ใจแล้ว สุริยนยังบอกว่า ดร.ฝันเป็นที่ปรึกษาที่ดีในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย ดร.ฝันเติบโตมาในครอบครัวที่มีคุณธรรมสูง จึงซึมซับเรื่องคุณธรรมมาเต็มเปี่ยม

 “พี่ฝันเป็นคนที่มีคุณธรรมเป็นที่ตั้ง หากเราเจอคนดีแบบนี้เราต้องรีบคบ ซึ่งหาได้ยากมาก เราเชื่อการทำความดี มันติดต่อกันไปได้ เมื่อเพื่อนดีเราต้องดีด้วย เป็นสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน พี่ฝันทำงานเก่ง เขาคิดอะไรก็พูดแบบนั้น นักเรียนต่างรักพี่ฝัน เพราะเขาเป็นอาจารย์ที่นักเรียนเอื้อมถึง

 "พี่ฝันเป็นคนไม่อ้อมค้อม ชัดเจน เวลาทำงานเป็น สนช. พี่ฝันก็ลุยเลย อีกหน่อยรุ่นเราไม่อยู่ ต้องส่งต่อให้เด็กๆ  แม้เราจะเป็นหนุ่มสาวสังคม แต่อีกด้านที่ช่วยเหลือสังคมเราต้องมีด้วย เรียกว่ามือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ”

 นอกจากทัศนคติที่ดีและจิตใจที่มีคุณธรรม ซึ่งสุริยนได้ซึมซับจาก ดร.ฝันแล้ว ด้วยความที่สุริยนมีแต่พี่ชาย ไม่เคยมีพี่สาว ดร.ฝันจึงเปรียบเสมือนพี่สาวของเขา เรียกว่าสนิทกันมากกว่าญาติ เพราะทั้งคู่เป็นคนไม่ชอบสร้างภาพ ต่างคนต่างตรงไปตรงมา

 “เราชอบแหย่กัน แต่ไม่มีการโกรธกัน ดร.ฝันนอกจากเป็นพี่สาวแล้ว เขายังเป็นเพื่อนที่น่ารัก เพราะพูดเก่งและเป็นที่ปรึกษาที่ดี รู้จักกันมา 15 ปี เราไม่มีผลประโยชน์อะไรต่อกัน เป็นเพื่อนที่คบแล้วรู้สึกสบายใจมาก ไม่ได้เจอกันบ่อยในงานสังคม แต่หากเป็นเรื่องการรณรงค์ให้คนตระหนักรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันสื่อลามกอนาจารในเด็กแล้ว เราเจอกันบ่อยมาก เวลาเจอกันก็ไม่ต้องเอาใจกัน ไม่ว่างก็ไม่เจอ อย่างงานของมูลนิธิพิทักษ์และคุ้มครองเด็ก เราจะประชุมกันทุกเดือน แต่กินข้าวด้วยกันนานๆ ครั้ง”

 ในฐานะเพื่อนและพี่สาว สุริยนรู้สึกไม่เป็นห่วงในตัวพี่สาวเลย ห่วงเพียงเรื่องเดียวคือ เรื่องชีวิตคู่ของพี่สาว อยากให้เธอลงจากคานเร็วๆ เพราะก็มีแฟนคนพิเศษอยู่แล้ว ก็ควรจะตกร่องปล่องชิ้นกันเสียที

 “พี่ฝันเป็นคนทำงานเร็ว จัดให้เขาทำงาน 5 วันเขาก็ทำได้ เหมือนสมัยผมทำงานอยู่เอเยนซี ผมก็ทำงานเร็ว ผมกับ ดร.ฝัน คิดว่าเราโชคดีที่ออกปากขอความช่วยเหลืออะไรไป คนก็ให้การช่วยเหลือ เช่น เราจัดงานให้กับสภาเด็ก สตางค์ราชการไม่มี แต่เราต้องใช้เงิน 3 แสนบาทเพื่อจัดงาน โชคดีที่หันไปหาเพื่อนเพื่อขอเงิน เขาก็ให้กัน เหมือนเรามีบุญ ได้เต็มที่กับการทำงานเพื่อนสาธารณชน

 "ตอนนี้เราอยากสร้างความตระหนักว่า กฎหมายคุ้มครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อป้องกันเด็กบริสุทธิ์ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ผ่านร่างเป็นกฎหมายแล้วนะ เด็กอายุ 1 วันจนถึง 18 ปีได้รับการคุ้มครองแล้ว บุคคลทั่วไปก็ควรรู้กฎข้อนี้ ส่วนเด็กๆ ก็รับรู้ถึงสิทธิของตัวเองได้แล้ว”