posttoday

5 สเต็ป สัมภาษณ์งานผ่านฉลุย!

15 สิงหาคม 2559

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เดินสายไปสัมภาษณ์งานกี่ครั้งต่อกี่ครั้งทำไมถึงเงียบหาย งานที่หวังไว้ว่าน่าจะได้ “ชวด” ไปอย่างน่าเสียดาย

โดย...ราตรีแต่ง

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เดินสายไปสัมภาษณ์งานกี่ครั้งต่อกี่ครั้งทำไมถึงเงียบหาย งานที่หวังไว้ว่าน่าจะได้ “ชวด” ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่มั่นใจแล้วว่าตอบคำถามได้ดี โปรไฟล์การศึกษาดีไม่แพ้ใคร แต่สัมภาษณ์งานครั้งไหนก็ไม่เคยสมหวัง ควรถึงเวลาบอกลาความผิดหวังจากการสัมภาษณ์งานกันได้แล้ว

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่นแคร์ แนะ 5 สเต็ปง่ายดาย การสัมภาษณ์งานในครั้งหน้าจะต้องผ่านฉลุย

สเต็ป 1 เตรียมความคิด ทำการบ้าน

เริ่มจากศึกษาตำแหน่งที่จะไปสัมภาษณ์งาน และเตรียมคิดว่าเรามีความรู้หรือคุณสมบัติอะไรที่ทำให้บริษัทที่หมายตาไว้ เขาควรจ้างเราบ้าง เช่น ความสามารถในการสื่อสารระหว่างบุคคล ความสามารถทางด้านการขาย ฯลฯ ต้องทำการบ้านเอาไว้ล่วงหน้าก่อนเพื่อที่จะสามารถตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นธรรมชาติ และแสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ ในสเต็ปแรกรวมถึงเขียน resume ให้น่าสนใจ เน้นทักษะที่ตรงกับคุณสมบัติของงานลงไป จัดหน้าให้อ่านง่ายและแบ่งหัวข้อชัดเจน ส่วนรูปภาพควรปรับแสง รีทัชแต่พอดี แค่นี้ก็พร้อมสำหรับการเตรียมตัวสเต็ปถัดไป

สเต็ป 2 เติมทักษะที่ขาด

ขวนขวายเพิ่มเติมทักษะจำเป็นในงานเป้าหมาย เพื่อทำให้เราเป็นเหมือนทรัพยากรที่มีค่ากับองค์กรมากขึ้น รวมถึงอาจจะเป็นคนที่พัฒนาองค์กรได้ถูกทิศถูกทางมากขึ้นด้วย เช่น HR ในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นผู้คัดสรรบุคคลแล้ว ยังต้องมีความรู้ด้านการตลาด การบริหาร เพื่อสร้างกระบวนการสรรหาที่ตอบโจทย์องค์กรมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าทักษะภาษาอังกฤษนั้น ยังเป็นทักษะทางภาษาอันดับ 1 ที่องค์กรต้องการ แต่หากมีภาษาที่ 2 หรือ 3 ด้วย ก็จะเป็นที่หมายตามากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับทักษะคอมพิวเตอร์ แค่ Microsoft Office คงยังไม่พอแน่ ต้องเรียนรู้ทักษะโปรแกรมอื่นๆ เพิ่มเติม

สเต็ป 3 ว่าด้วยเรื่องของ “ทัศนคติ”

ทัศนคติเชิงบวก เป็นสิ่งที่องค์กรและบริษัทต่างๆ ต้องการมาก ทัศนคติเชิงบวกมักจะดึงดูดความสำเร็จเข้ามา ด้วยแนวคิดแง่ดี เช่น เราสามารถทำได้ เรามีความสุข และเราต้องทำให้ได้ แนะนำว่าก่อนสัมภาษณ์งาน ควรทำความรู้จักและศึกษาประวัติบริษัทที่เรากำลังจะไปสัมภาษณ์ ดูว่าลักษณะงานตรงกับสิ่งที่เรากำลังมองหาอยู่หรือไม่ จากนั้นลิสต์แนวคำถาม และคำตอบที่คาดว่าจะถูกถามไว้คร่าวๆ เพื่อเตรียมพร้อม แต่ขณะเดียวกัน ต้องมีสติบวกกับไหวพริบในการแก้ปัญหาของตัวเองด้วย

ในกรณีที่เจอคำถามที่ให้แสดงความคิดเห็น จำไว้ว่า จงเป็นตัวของตัวเองและมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ ซึ่งถ้าผ่านไปได้ ก็จะแสดงถึงความมีสติ รอบรู้ และความเป็นผู้นำของเรา

สเต็ป 4 เช็กบุคลิกภาพ-การแต่งกายให้พร้อม

บุคลิกภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทางที่ดีขณะที่สัมภาษณ์งานอยู่นั้น ควรนั่งหลังตรงและพยายามใช้ท่าทางประกอบการพูดเพื่อให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ สง่า แต่ก็ต้องไม่มากเกินไปจนน่าขบขันเหมือนการแสดง ที่สำคัญต้องมีศิลปะในการพูด โดยตอบคำถามอย่างมีเหตุมีผล ตรงประเด็น ฉะฉาน และมีน้ำเสียงชวนฟัง พร้อมกับเตรียมเรื่องการแต่งกายให้พร้อม

เนื่องจากจุดนี้เป็นตัวบ่งบอกถึงความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ทุกครั้งที่ไปสัมภาษณ์งาน ควรเลือกเครื่องแต่งกายที่ถูกกาลเทศะ เหมาะกับบุคลิกภาพของตัวเอง อย่าให้มากหรือน้อยเกินไป

สเต็ป 5 ความประทับใจผ่านการสื่อสารทางสายตา

รู้หรือไม่ว่า...การสบสายตาสามารถบอกความรู้สึกได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ ไม่ชอบ เคารพนับถือ ไปจนถึงความรู้สึกมุ่งมั่น ดังนั้นเวลาสบสายตาผู้สัมภาษณ์ เราต้องใช้สายตาที่มีความสุภาพเรียบร้อย จะได้ไม่ทำให้ดูก้าวร้าว และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำตาลอกแลกเมื่อเจอคำถามสุดหิน เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังรู้สึกไม่มั่นใจออกมาชัดเจน

ข้อควรระวังสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ เมื่อใส่คอนแทคเลนส์ไปสัมภาษณ์งาน ควรเลือกคอนแทคเลนส์ปลอดภัยมีมาตรฐาน ใส่แล้วดวงตาชุ่มชื่นยาวนานจะได้ไม่เสียบุคลิก กับการกะพริบตาตลอดเวลาขณะสัมภาษณ์งานเนื่องจากรู้สึกตาแห้ง ขืนเกิดอาการตาแดงไปสัมภาษณ์คงไม่ดีแน่ๆ

สำหรับคนที่เพิ่งเปลี่ยนจากการใส่แว่นมาใช้คอนเเทคเลนส์ ควรทดลองใส่ล่วงหน้าก่อนสัมภาษณ์งานสัก 2-3 วัน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความมั่นใจในขณะสัมภาษณ์มากยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ดวงตาก็จะดูสุภาพ น่าเชื่อถือ สวยมั่นใจ สร้างความประทับใจแรกพบได้แน่นอน