posttoday

เหลียงซานป๋อกับจู้อิงไถ โรมิโอกับจูเลียตแห่งจีน

08 สิงหาคม 2559

จีนมีวันแห่งความรักเป็นของตัวเองที่ไม่ใช่วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักตามประเพณีจีนคือวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน

โดย...นิธิพันธ์ วิประวิทย์

จีนมีวันแห่งความรักเป็นของตัวเองที่ไม่ใช่วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักตามประเพณีจีนคือวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 9 ส.ค.

นิทานพื้นบ้านเกี่ยวกับความรักชื่อดังของจีนเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า “เหลียงซานป๋อกับจู้อิงไถ” ในไทยมักให้ชื่อเรื่องว่า “ม่านประเพณี”

จู้อิงไถเป็นลูกสาวตระกูลผู้ดี ฉลาดหลักแหลมและอยากเรียนหนังสือ ในยุคที่หญิงสาวถูกกำหนดให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เด็กผู้หญิงเรียนหนังสือเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนถกเถียงขอไปเรียนด้วยเหตุผลใด พ่อของเธอก็ไม่อนุญาต“ผู้หญิงเดินทางไปร่ำเรียนห่างบ้าน เกิดอะไรขึ้นใครจะรับผิดชอบ”

จากนั้นไม่นาน มีหมอดูเข้ามาทักพ่อเธอว่า ลูกสาวบ้านนี้มีโชคร้าย ต้องให้ลูกสาวไปแดนไกลเพื่อแก้เคล็ด พ่อเธอได้ฟังเกิดอาการลังเล ทันใดนั้นหมอดูก็เฉลยตัวว่าที่แท้คือจู้อิงไถปลอมตัวมา

จู้อิงไถพิสูจน์แล้วว่า ฝีมือปลอมเป็นชายของเธอถึงขนาดตบตาพ่อเธอได้ เรื่องความปลอดภัยในการไปเรียนแดนไกลย่อมไม่มีปัญหา พ่อเธอทั้งเซ็งทั้งเอ็นดูในลูกสาวแสนฉลาด จึงยอมในที่สุด

สาวน้อยจู้อิงไถอายุ 16 และสาวใช้ปลอมตัวเป็นชายออกเดินทางไปร่ำเรียนที่หังโจว

ระหว่างทางฝนตก ต้องหลบฝนที่ศาลาริมทาง ได้พบเหลียงซานป๋อ หนุ่มน้อยที่จะไปเรียนที่เดียวกัน ได้สนทนาพูดคุยถูกคอ ความลับเกือบแตกเมื่อสาวใช้หลุดเรียกเธอว่าคุณหนู จู้อิงไถหัวไวแก้ตัวว่าที่บ้านมีน้องเก้า เป็นน้องสาวฝาแฝดของเธอซึ่งอยากติดตามร่ำเรียนหนังสือแต่ไม่มีโอกาส ผู้ติดตามชอบติดปากเรียกผิด

เหลียงซานป๋อได้ยิน จึงบอกออกมาว่า “ชายหญิงต่างเกิดจากบิดามารดาเช่นกัน จึงล้วนควรได้ศึกษาร่ำเรียนทั้งนั้น” สาวน้อยจู้อิงไถที่ปลอมตัวมาได้ฟังเข้า จึงเริ่มปลื้มเหลียงซานป๋อ

ทั้งคู่สาบานเป็นพี่น้องกัน

เมื่อเข้าเรียนเหลียงซานป๋อและจู้อิงไถกลายเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องคู่หูอยู่ในเรือนเดียวกัน ความผูกพันค่อยๆ เพิ่มขึ้น เหลียงซานป๋อศิษย์พี่คนซื่อต้องคอยดูแลจู้อิงไถศิษย์น้องผู้ฉลาดเฉลียว ศิษย์น้องหาบน้ำไม่ไหว ศิษย์พี่ก็มาช่วยหาบ จู้อิงไถไม่สบายเหลียงซานป๋อคอยต้มยา เฝ้าไข้ ดูแล

แต่ความลับที่จู้อิงไถเป็นหญิงไม่เคยเล็ดลอดออกมา เธอฉลาดมีไหวพริบ และเหลียงซานป๋อก็เป็นชายหนุ่มแสนซื่อ สุภาพ และอ่อนโยน (ถ้าบอกว่ากิมย้งได้แรงบันดาลใจการสร้างตัวละครอึ้งย้งและก้วยเจ๋งจากบุคลิกของจู้อิงไถและเหลียงซานป๋อก็คงไม่น่าแปลกใจ)

3 ปีแห่งความรื่นเริงผ่านไป สาวน้อยกลายเป็นหญิงสาว หนุ่มน้อยกลายเป็นชายหนุ่ม จู้อิงไถได้ร่ำเรียนสมใจ เมื่อเรียนจบก็ถึงเวลาต้องแยกทางกลับบ้านเกิด จู้อิงไถพึงใจแอบรักเหลียงซานป๋อ เหลียงซานป๋อก็ทั้งเลื่อมใสและเอ็นดูจู้อิงไถ ทั้งคู่ต้องแยกจากกันด้วยความอาวรณ์

ระหว่างที่เหลียงซานป๋อเดินทางส่งอำลา จู้อิงไถพยายามหยั่งเชิงว่า เหลียงซานป๋อจะมีใจให้หรือไม่ถ้าตนเป็นหญิง พยายามบอกใบ้หลายต่อหลายครั้ง แต่เหลียงซานป๋อไม่เข้าใจ เมื่อสุดทางส่งจู้อิงไถจึงเอ่ยกับเหลียงซานป๋อว่า อยากแนะนำน้องเก้า น้องสาวฝาแฝดของจู้อิงไถให้กับเหลียงซานป๋อ น้องสาวคนนี้รูปร่างหน้าตาเหมือนเธอเป๊ะ ขอให้ศิษย์พี่รีบไปสู่ขอที่บ้านเธอ

ต่อมาอีกเดือนหนึ่งเหลียงซานป๋อเดินทางไปที่บ้านจู้อิงไถ เมื่อได้เจอหน้าจู้อิงไถจึงค้นพบความจริงว่าศิษย์น้องเป็นหญิงสาวที่ปลอมเป็นชายมาตลอด ภาพแฟลชแบ็กทั้งหมดตั้งแต่ความผูกพันที่เป็นห่วงช่วยเหลือกันในตอนเล่าเรียน จนถึงคำบอกใบ้ต่างๆ นานาจึงผุดขึ้นมาเป็นความดีใจอย่างที่สุด รักนี้พิสดาร เพราะเริ่มจากรักเพราะผูกพันแล้วค่อยจุดประกายอีกครั้งด้วยรักแรกพบ

แต่ความปลื้มปริ่มต้องถูกกระชากให้กลายเป็นความหดหู่ทารุณ เมื่อเวลานั้นสายเกินไปเสียแล้ว พ่อของจู้อิงไถสัญญาจะยกลูกสาวให้ลูกชายของขุนนางตระกูลหม่าผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพล เหลียงซานป๋อมาช้าไป

เหลียงซานป๋อทั้งคับแค้นใจในความโง่และโชคชะตา ส่วนจู้อิงไถได้แต่เศร้าสร้อยหาทางออกไม่ได้ ชีวิตของหนุ่มสาวทั้งสองไม่ได้อิสระตัดสินใจอะไรๆ ได้เองเช่นในวันที่ร่ำเรียนศึกษาอยู่ด้วยกันอีกต่อไป

ความทุกข์ครั้งนี้ยากนักที่เด็กหนุ่มแสนซื่อจะรับไหว เหลียงซานป๋อช้ำใจไม่นานก็ตรอมใจตาย เมื่อจู้อิงไถได้ข่าวรู้สึกโศกเศร้าอย่างที่สุด

ในวันส่งตัวเจ้าสาว จู้อิงไถสวมชุดไว้ทุกข์ไว้ภายใต้ชุดแต่งงาน เหมือนฟ้าเป็นใจเส้นทางส่งตัวมีอุปสรรค ทำให้ขบวนส่งตัวต้องผ่านหลุมศพเหลียงซานป๋อ เมื่อผ่านหน้าหลุมศพ เกิดลมพายุพัดแรงจนขบวนเดินต่อไปไม่ได้ จู้อิงไถถอดชุดแต่งงานลงไปร่ำไห้ด้วยชุดไว้ทุกข์ที่หน้าหลุมศพเหลียงซานป๋อ ทันใดนั้นฟ้าผ่าพื้นดินตรงหลุมศพแยกออก เธอกระโจนลงไปด้วยอาลัยรักอย่างไม่ลังเล แล้วพื้นดินก็ยุบปิดรวมกันอีกครั้ง ไม่มีใครสามารถรั้งเธอไว้

แล้วพายุก็สงบลงฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง บนหลุมศพมีผีเสื้อโบยบินอยู่คู่กันสองตัว เชื่อว่านั่นคือเหลียงซานป๋อกับจู้อิงไถที่ได้ครองรักกันอย่างอิสระแท้จริง ปลดเปลื้องทุกอย่างจากพันธนาการของโลกของมนุษย์

ในยุคที่จีนยังปิดประเทศ นายกฯ โจวเอินไหล เคยนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปจัดฉายโปรโมทจีนในการประชุมที่เจนีวา เพื่อโฆษณาให้นักข่าวนานาชาติเข้าใจได้รวดเร็วที่สุด จึงใช้คำว่า “คือ โรมิโอและจูเลียตแห่งแผ่นดินจีน”

รักโรแมนติกของหนุ่มสาวเป็นทั้งสัญชาตญาณและวัฒนธรรม นั่นคือความใฝ่ฝันอยากได้ใครสักคนมาร่วมใช้ชีวิตเป็นธรรมชาติ แต่จะซาบซึ้งและยืนยาวในรูปแบบไหนเป็นเรื่องที่ถูกกล่อมเกลาและเรียนรู้จากกรอบของสังคม

เสียงกระซิบซ่อนอยู่ในตำนานความโรแมนติกจึงแอบบอกเราเสมอว่า สังคมนั้นๆ พัฒนาถึงขั้นไหน และความรักบริสุทธิ์ของหนุ่มสาวต้องต่อสู้กับสิ่งใด

เรื่อง “โรมิโอและจูเลียต” ของเชกสเปียร์ถูกย่องย่องชื่นชมเพราะคำถามที่ว่า ควรหรือที่โศกนาฏกรรมความรักของหนุ่มสาวปัจเจกชนจะต้องถูกขัดขวางจากความหยิ่งยโส เกลียดชังและความบาดหมางระหว่างตระกูล ที่ทั้งคู่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วน “เหลียงซานป๋อกับจู้อิงไถ” นอกจากประเด็นเรื่องความรักที่ถูกแยกจากกันเพราะประเพณีคลุมถุงชน ยังมีประเด็นการดิ้นรนหญิงสาวซึ่งถูกกรอบทางสังคมจำกัดให้ “อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน” เท่านั้น ในยุคจีนเริ่มต้นอุดมการณ์รัฐใหม่ รัฐจีนพยายามชี้ว่านี่คือความเลวร้ายของประเพณีเก่าคร่ำครึที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม

คนรุ่นใหม่อาจมองเห็นตำนานโรแมนติกแบบนี้จนเคยชิน แต่คุณค่าของตำนานที่เปล่งเสียงเรียกร้องแรกของพลังรักนอกกรอบสังคมก็ย่อมสมควรชื่นชม

ซึ่งฝรั่งและจีนต่างให้คุณค่าตำนานรักของตนไว้อย่างน่าสนใจ

นิยายคล้ายๆ กันในบ้านเราน่าจะเป็นเรื่อง “แผลเก่า” แต่ข่าวที่เผยแพร่คำชื่นชมจากกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อปีที่แล้วบอกว่า “เป็นหนังที่คนไทยทุกคนสมควรดู! เพราะเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่ามีจุดเด่นที่ความเป็นไทย... ทำให้ได้เห็นอดีตของไทยอันงดงาม... และมีภาพอันสวยงามน่าประทับใจ...”

ดูเหมือนความรักที่ดิ้นรนออกจากพันธะทางประเพณีของบ้านเราจะไร้ตัวตน ไม่จำเป็นต้องพูดถึง มองเห็น และไม่เห็นเป็นประเด็นต้องเชิดชู โดยเฉพาะในนาม “วัฒนธรรม” ของรัฐ