posttoday

ฟรีดา คาห์โล กับ 200 ปีแห่งการปลดแอกเม็กซิโก

21 มกราคม 2553

ว่ากันว่า ไม่มีสิ่งได้ที่จะเหมาะในการฉลอง 200 ปีในการเป็นเอกราชของประเทศเม็กซิโกได้ดีกว่านิทรรศการศิลปะของ ฟรีดา คาห์โล...

ว่ากันว่า ไม่มีสิ่งได้ที่จะเหมาะในการฉลอง 200 ปีในการเป็นเอกราชของประเทศเม็กซิโกได้ดีกว่านิทรรศการศิลปะของ ฟรีดา คาห์โล...

โดย...อฐิณป ลภณวุษ

ว่ากันว่า ไม่มีสิ่งได้ที่จะเหมาะในการฉลอง 200 ปีในการเป็นเอกราชของประเทศเม็กซิโกได้ดีกว่านิทรรศการศิลปะของ ฟรีดา คาห์โล ไม่เพียงเพราะการที่เธอได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกเท่านั้น ตลอดทั้งชีวิตของเธอยังเกี่ยวพันกับการเมือง และต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของประชาชนชาวเม็กซิโกมาโดยตลอด

ฟรีดา คาห์โล กับ 200 ปีแห่งการปลดแอกเม็กซิโก

ฟรีดา คาห์โล กับ 200 ปีแห่งการปลดแอกเม็กซิโก ฟรีดา คาห์โล

Frida Kahlo y su mundo หรือ โลกของฟรีดา คาห์โล จึงกลายเป็น 1 ใน 5 นิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นในเทศกาลเม็กซิกัน Imagenes del mexicano ณ พิพิธภัณฑ์โบซาร์ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม โดยได้นำภาพวาดผลงานศิลปินหญิงเม็กซิกันจำนวน 19 ภาพ นอกจากนี้ยังมีผลงานภาพพิมพ์ ภาพวาดลายเส้น และภาพถ่ายอีกจำนวนหนึ่งจากพิพิธภัณฑ์โดโลเรส โอลเมโด ซึ่งนับเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่รวบรวมผลงานและข้าวของส่วนตัวของฟรีดาเอาไว้มากที่สุดในโลก

นับตั้งแต่อุบัติเหตุรถรางตอนอายุ 17 ปี นอกจากจะต้องผ่านการผ่าตัดครั้งใหญ่แล้ว ก็นับว่า ชีวิตของเธอได้รับการผ่าตัดครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

ฟรีดา คาห์โล เปรียบดัง วินเซนต์ ฟาน โกะห์ ฝ่ายหญิง เธอถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของตัวเองออกมาทางภาพพอร์เทรตที่งดงาม มีพลัง และไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด ชีวิตคู่แบบลุ่มๆ ดอนๆ ของเธอและสามีศิลปินดัง ดิเอโก ริเวรา การเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ ฯลฯ

 

โดโลเรส โอลเมโด เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของฟรีดามาตั้งแต่ที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ทั้งคู่เป็นผู้หญิงที่เติบโตมาคนละแบบ โดโลเรสโตมาในแวดล้อมยุคสมัยใหม่ ขณะที่ฟรีดาถูกเลี้ยงดูมาแบบเม็กซิกันดั้งเดิม หลังจากที่ฟรีดาเสียชีวิตลงเมื่อปี 1954 ดิเอโก ริเวรา ได้ติดต่อโดโลเรส ซึ่งแต่งงานกับอเลฆันโดร โกเมซ อารีอัส อดีตแฟนหนุ่มของฟรีดาในวัยเด็ก ที่ได้ดิบได้ดีทางการเมือง เพื่อที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์เอาไว้เก็บผลงานของศิลปินหญิงเม็กซิกันผู้ยิ่งยง

ฟรีดา คาห์โล กับ 200 ปีแห่งการปลดแอกเม็กซิโก

ในเบื้องแรกโดโลเรสยกบ้านที่อะคาปุลโกให้ดิเอโกได้สร้างอนุสรณ์แด่อดีตภรรยา ต่อมาพวกเขาซื้อบ้านของเอดูอาร์โด มอริลโย ซาฟา เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ทว่าความฝันของดิเอโก เป็นจริงหลังจากเขาเสียชีวิต (ปี 1957) ไปแล้ว โดยโดโลเรสได้สร้างสถานที่แสดงงานของฟรีดา คาห์โล อย่างถาวรที่เมืองโซชิมิลโก ใกล้ๆ กับเม็กซิโก ซิตี สำเร็จในทศวรรษที่ 1990 โดยโดโลเรสรับหน้าที่บริหารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยตัวเอง กระทั่งเสียชีวิตในปี 2002

ในเทศกาลเม็กซิโก หรือ Imagenes del mexicano สะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์ 200 ปี ของเม็กซิโก ตั้งแต่สมัยพรีโคลัมเบียน หรือก่อนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสจะค้นพบทวีปอเมริกา มาจนถึงเมื่อครั้งที่ตกเป็นเมืองขึ้นของสเปน และหลังได้รับอิสรภาพ นำเสนอผ่านภาพถ่ายและจิตรกรรมของช่างภาพและศิลปินชื่อดัง นอกจากผลงานของฟรีดาแล้ว ก็ยังมีผลงานของดิเอโก ริเวรา เอร์เมเนกิลโด บุสตอส ดาวิด อัลฟาโร ซิเกอิรอส ผลงานของช่างภาพหญิง ทีนา โมดอตติ รวมทั้งภาพยนตร์ของ เซอร์เกย์ ไอเซนสไตน์

Mundos Mexicanos เป็นส่วนนิทรรศการที่รวบรวมช่างภาพร่วมสมัย 25 คน โดยสร้างธีมให้ช่างภาพเหล่านี้ไปถ่ายภาพที่แสดงจิตวิญญาณของเม็กซิโก อย่าง โรงงานยาสูบสมัยอาณานิคม ซึ่งต่างสะท้อนออกมาในมุมมองของตัวเอง

อีกส่วนหนึ่งเป็นนิทรรศการแสดงความทันสมัยของเม็กซิโก หรือ Mexican Modernisms โดยมีหลุยส์ บาร์รากาน สถาปนิกชาวเม็กซิกันเป็นเป็นตัวแทนถ่ายทอดรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเม็กซิกันแท้ๆ โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมหลังสงครามที่เป็นแบบร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการภาพถ่าย The Mole’s Horizon โดยหลากหลายช่างภาพคนดังที่สะท้อนให้เห็นภาพรวมจากมุมต่างๆท ของเม็กซิโกทั่วประเทศ เช่นเดียวกับการแสดงเวที ทั้งคอนเสิร์ต การอ่านบทกวีประกอบลีลา รวมถึงคอนเทมโพรารีแดนซ์

Frida Kahlo y su mundo และเทศกาลเม็กซิโกเปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง 21 เม.ย. นู่นเลย