posttoday

ดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne)

23 มกราคม 2565

แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม เผยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne) พร้อมแนะวิธีดูแลและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้า

ดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne)

การป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากเชื้อโรคนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนไม่อาจละเลยได้ในปัจจุบัน การสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลาที่ต้องออกไปสถานที่สาธารณะจึงเป็นสิ่งจำเป็นและขาดไม่ได้ แต่การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลานั้นมักทำให้เกิดปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพผิวโดยที่เราไม่รู้ตัว อาทิ การอับชื้น เกิดการเสียดสีระหว่างผิวกับหน้ากากอนามัย เกิดสิว ผื่นแพ้ เกิดการระคายเคืองและทำร้ายผิวหน้าของเราได้ แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล ได้แนะนำ “วิธีดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย” กับผลิตภัณฑ์ ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช’ (Purifying Face Wash), ‘แอสตริเจนต์ โทนเนอร์’ (Astrigent Toner), ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น (Hydrating Emulsion) และ ‘รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก’ (Revitalising Face Mask) โดยมีเซเลบริตี้สาวสวยร่วมเผยวิธีการดูแลสุขภาพผิวหน้าให้แข็งแรงตามแบบฉบับตนเอง อาทิ รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา, พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา และ วิชาดา พูลผล

ดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne)

แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะนำวิธีดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย ดังนี้

ปัจจุบันเราต้องสวมใส่แมสก์อยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค แต่การใส่แมสก์ตลอดเวลานั้นทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง จนทำให้เกิดสิวบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่ถูกปิดทับด้วยหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน สิวที่เกิดจากการใส่หน้ากากนี้ เรียกว่า ‘Maskne’ เป็นสิวที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับหน้ากากอนามัย ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเกิดการอุดตันของรูขุมขนจนทำให้เกิดสิว ส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาบริเวณที่ถูกหน้ากากอนามัยปิดทับ เช่น คาง แนวกราม แก้ม จมูก และรอบปาก ส่วนผู้ที่สวม Face Shield เป็นประจำมักจะพบปัญหาสิวบริเวณหน้าผาก นอกจากปัญหาสิวแล้วยังพบสภาวะโรคผิวหนังอักเสบ (Rosacea) หรือผื่นผิวหนังอักเสบรอบปาก (Perioral dermatitis) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne) อาทิ

· การแต่งหน้า (Makeup) ในสภาวะที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันรูของขุมขนและทำให้เกิดสิวตามมา

· ความชื้น (Humidity) ความร้อนและความชื้นจากลมหายใจที่หมุนเวียนภายในหน้ากากอนามัย รวมถึงความอับชื้นจากเหงื่อ และละอองน้ำลาย ส่งผลให้เกิดสภาวะเสียสมดุลของจุลินทรีย์บนผิวหนัง (microbiome dysbiosis) ทำให้เกิดสิวหรือผิวอักเสบรวมถึงโรคผิวหนังอื่นๆ ตามมา

· ความเย็นและแห้งของอากาศ (Cold, Dry weather) ส่งผลเสียต่อผิว เนื่องจากต่อมไขมันจะหลั่งน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องและรักษาความชุ่มชื้นของผิว เมื่อมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวจึงทำให้เกิดการรวมตัวกับน้ำมันส่วนเกินและเกิดการอุดตันของรูขุมขน จึงทำให้เกิดสิว

· ความเครียด (Stress) ทำให้ผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) โดยจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันบนผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกินความจำเป็น หากทำความสะอาดผิวได้ไม่ดีพอ ก็จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตันได้

ดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne)

ปัญหาสิวจากการใส่หน้ากากอนามัยมีความสัมพันธ์กับความแข็งแรงของเกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ซึ่งเป็นผิวหนังขั้นนอกสุด ช่วยปกป้องไม่ให้สิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาในชั้นผิว รวมถึงทำหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายในผิว หากเกราะปกป้องผิวเกิดความอ่อนแอ ผิวก็จะไม่แข็งแรง ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง รวมถึงการเกิดผดผื่นและสิวได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นและแข็งแรงอยู่เสมอ ส่วนวิธีป้องกันการเกิดสิวที่เกิดจาการใส่หน้ากากอนามัยนั้น สามารถทำได้โดย

· ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อยๆ หรือทำความสะอาดหน้ากากอนามัยแบบผ้าเป็นประจำทุกวัน

· ควรหาเวลาให้ผิวได้ระบายอากาศบ้าง หลังจากใส่หน้ากากอนามัยมาเป็นระยะเวลานาน ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อย 10-15 นาที ทุกๆ 4 ชั่วโมง แต่ต้องมั่นใจก่อนว่าเราอยู่คนเดียว หรืออยู่ในพื้นที่ปลอดการติดเชื้อ เช่น ในห้องส่วนตัว ในรถยนต์ส่วนตัว

· งดใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางค์ที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน หรือควรงดแต่งหน้าบริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัย

· การล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัฑณ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ก่อให้เกิดความแห้งตึงของผิวหลังการล้าง

· เน้นการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา และไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน (Non-comedogenic) ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิวอย่างสารสกัดจากชิโซะ (Shiso), น้ำมันมะพร้าวออแกนิค (Organic coconut oil), สารสกัดจากอูกอน (Ougon extract) เป็นต้น

· การดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร งดหรือลดอาหารที่มีรสหวานจัด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ช็อกโกแลต ไอศกรีม เพราะส่งผลต่อระดับอินซูลินที่สูงขึ้น ทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้

หากใครที่มีปัญหาการแพ้หน้ากากอนามัยก็ขอแนะนำว่าให้สวมใส่หน้ากากผ้าไว้ด้านในก่อน แล้วค่อยสวมหน้ากากอนามันปิดทับไว้ด้านนอกตรงนี่ก็ช่วยลดอาการแพ้หน้ากากอนามัยได้เป็นอย่างดี

ดูแลผิวให้ห่างไกลจากการเกิดสิวใต้หน้ากากอนามัย (Maskne)

ด้านเซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวหน้าให้แข็งแรงตามแบบฉบับตนเอง เริ่มที่คุณแม่ยังสวย รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา เผยว่า “แมสก์ถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอกก็ต้องสวมใส่แมสก์ตลอด โดยจะเลือกแมสก์ที่มีความกระชับพอดีกับใบหน้า ไม่เล็กหรือหลวมจนเกินไป ไม่ใช้แมสก์ซ้ำ ต้องเปลี่ยนแมสก์ทุกวัน และที่สำคัญไม่ละเลยการดูแลความสะอาดผิวหน้า ใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเช็ดล้างเครื่องสำอาง เลือกผลิตภัณฑ์ทำที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อย่างหมดจด เช็ดกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ และบำรุงผิวด้วยไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ นอกจากนั้นทุกสัปดาห์จะฟื้นฟูผิวหน้าด้วยเฟซ มาส์ก สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อปกป้องและรักษาสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวจะได้แข็งแรง ไม่แพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย”

ถัดมาที่สาวยิ้มหวาน พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา เล่าว่า “ตั้งแต่ต้องใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอก เราก็มักจะเจอปัญหาเป็นสิวบริเวณคางและแก้มทั้งสองข้าง เนื่องจากเวลาใส่แมสก์จะเกิดการเสียดสีระหว่างแมสก์กับใบหน้าของเราทำให้เกิดรอยแดง รอยยับบนใบหน้า ยิ่งวันไหนที่ต้องแต่งหน้าสิวก็จะขึ้นง่ายกว่าปกติด้วย วิธีแก้ปัญหาของเราอย่างแรกเลยก็คือต้องไม่เปลี่ยนยี่ห้อหน้ากากอนามัยบ่อยๆ เพราะมีทั้งหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากแบบแฟชั่น ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีคุณภาพแตกต่างกัน ถัดมาก็คือการให้ความสำคัญกับการล้างทำความสะอาดผิวหน้า เริ่มจากการคลีนซิ่งเครื่องสำอางออกก่อน หลังจากนั้นก็ล้างหน้าด้วยเฟซ วอช เช็ดกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ และลงครีมบำรุงผิวด้วยไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของสิว และอาการระคายเคืองต่างๆ โดยจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นออแกนิค มีส่วนผสมจากธรรมชาติ จะได้อ่อนโยนต่อผิวไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง”

ปิดท้ายที่สาวรักสุขภาพ วิชาดา พูลผล กล่าวว่า “เรามีปัญหาเรื่องแพ้หน้ากากอนามัย ทุกครั้งที่ต้องใส่หน้ากากเวลาออกไปข้างนอก ผดหรือผื่นเล็กๆ จะขึ้นบริเวณรอบๆ ที่ใส่หน้ากากอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อต้องใส่หน้ากากเป็นเวลานานๆ จะยิ่งอับชื้นและสิวจะขึ้นง่ายมาก วิธีแก้ปัญหาของเราก็คือหลังกลับจากข้างนอกเมื่อถึงบ้านจะต้องรีบล้างใบหน้าให้สะอาดด้วยเพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช และเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกค้างด้วยโทนเนอร์ เพราะผดผื่นที่ขึ้นมานั้นเกิดจากความอับชื้นขณะที่เราใส่หน้ากาก หากเราได้ล้างใบหน้าให้สะอาดผดผื่นก็จะยุบลงตามธรรมชาติ โดยเราจะเลือกเฟซ วอช ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักอย่างสารสกัดจากชิโซะหรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อไม่ให้เกิดสารตกค้างและเกิดการอุดตันรูขุมขน แต่การที่ล้างหน้าให้สะอาดก็มักจะตามมาด้วยอาการผิวตึงซึ่งเราก็ต้องเลือกครีมบำรุงที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่าง ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น ผิวจะได้ไม่แห้งตึงและยังชุ่มชื้นอยู่เสมอ”