posttoday

เฮลท์ตี้ทั้งบ้านด้วยจานอาหารสูตร 2:1:1

07 ตุลาคม 2562

ยุคนี้ใครๆ ก็ไม่อยากตกเทรนด์ฮิต "พิชิตพุง" หันมาออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของคนอยากลดอ้วน ลดพุง ลดโรค ก็คือการยอมรับความจริงข้อแรกที่ว่า ไม่มียาวิเศษชนิดใดช่วยท่านได้

ยุคนี้ใครๆ ก็ไม่อยากตกเทรนด์ฮิต "พิชิตพุง" หันมาออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของคนอยากลดอ้วน ลดพุง ลดโรค ก็คือการยอมรับความจริงข้อแรกที่ว่า ไม่มียาวิเศษชนิดใดช่วยท่านได้ ไม่มีหนทางใดลดไขมันเฉพาะส่วน และไม่มีวันเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน

สำหรับที่มาของ “2:1:1” รหัสเด็ดจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลดพุง ลดโรค คือการแบ่งจานอาหารให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้เราสามารถควบคุมไม่ให้เกิดไขมันส่วนเกินเพิ่มเข้าไปในร่างกาย และเป็นสูตรที่ช่วยให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสม โดยสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ ทำให้มีผลในเชิงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างยั่งยืนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

การแบ่งจานอาหารทุกมื้อของเราให้เป็น 4 ส่วน คือ

เฮลท์ตี้ทั้งบ้านด้วยจานอาหารสูตร 2:1:1

2 ส่วนแรก ( 2 ใน 4 ส่วน) นั่นคือ ครึ่งหนึ่งของจาน ขอให้เป็นผัก จะกินเป็นผักสดหรือผักสุกก็ได้ แต่ต้องกินผักให้หลากหลาย และเลือกผักที่ปลอดภัยล้างให้สะอาด

1 ส่วนต่อมา (1 ใน 4 ส่วน) เป็นแป้ง ได้แก่ ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือก มัน ถั่วธัญพืช (ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว) ข้าวโพด หรือลูกเดือย รวมทั้งพวกฟักทอง ปริมาณไม่เกิน 2 ทัพพี แนะนำให้กินแบบไม่ขัดสี เพราะจะได้ใยอาหารเพิ่มมากขึ้น และคงคุณค่าสารอาหารไว้มากกว่า ถ้าเป็นข้าว ขอเป็นข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวซ้อมมือ ขนมปังก็เลือกประเภทโฮลวีท เป็นต้น

1 ส่วนสุดท้าย (1 ใน 4 ส่วน) เป็นเนื้อสัตว์ เลือกที่ไขมันแทรกน้อย หรือไขมันต่ำ ถ้าเป็นปลาก็จะดีมาก เพราะปลาเป็นโปรตีนที่ดีมีคุณภาพ ที่สำคัญมีไขมันต่ำและเป็นไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งดีต่อสุขภาพ เนื้อไก่ไม่เอาหนัง เนื้อหมูเลือกไม่ติดมัน เลี่ยงพวกแปรรูปต่างๆ เช่น กุนเชียง, ไส้กรอก แหนม แฮม เบคอน หรือจะเป็นโปรตีนจากไข่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ โปรตีนเกษตร และสำคัญตรงที่ต้องเลี่ยงของทอด อาจใช้วิธีต้มหรือนึ่งให้สุกโดยปรุงรสน้อยที่สุดแทน

เฮลท์ตี้ทั้งบ้านด้วยจานอาหารสูตร 2:1:1

ส่วนใครยังคิดไม่ออกว่าจะสร้างสรรค์เมนูอย่างไร ขอให้ยึดหลักต่อไปนี้เอาไว้

  1. ใช้หลัก “ลดหวานมันเค็ม” ทุกครั้งที่เลือกเมนูขึ้นโต๊ะอาหาร ต้องเป็นเมนูที่ถูกปรุงแต่งรสชาติให้น้อยที่สุด สำหรับน้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสเค็มควรใช้แต่น้อย และหลีกเลี่ยงอาหารที่มันๆ
  2. อย่าลืม “เติมเต็มด้วยผัก” คือให้มีผักสด ผักต้ม ผักนึ่ง หลากหลายตามชอบ เป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งหรือ 2 ใน 4 ส่วนของเมนูอาหารทุกมื้อ การกินแบบ 2-1-1 ช่วยให้กินผักได้ประมาณวันละ 400 กรัมขึ้นไป ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้ ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก
  3. “ใช้โปรตีนจากปลาและถั่ว” สำหรับเมนูเนื้อสัตว์ 1 ส่วน ควรเลือกสัตว์ประเภทที่ให้ไขมันน้อย เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ปลา หรือถั่ว ไข่ เต้าหู้ โปรตีนเกษตร
  4. อีก 1 ส่วนที่เหลือ “กินแป้งได้แต่ให้เลือกแป้งที่ดี” ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสี เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย และธัญพืชชนิดต่างๆ
  5. ลองหาเมนูอร่อยๆที่ “ใช้วิธี ต้ม ตุ๋น ยำ อบ นึ่ง แทนการทอด” ถ้าต้องผัดหรือทอด ก็เน้นว่าให้ใช้น้ำมันน้อย หรือจะใช้กะทะเทฟลอน รวมทั้งตัวช่วยสมัยใหม่อย่างหม้ออบลมร้อน ซึ่งทำให้เราไม่ต้องง้อน้ำมันกันเลยทีเดียว
  6. หลังมื้ออาหาร หรือถ้าหิวนอกมื้อ “ขอแถมได้ไม่เกินหนึ่งกำมือ” ด้วยผลไม้หวานน้อย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ ฯลฯ โดยกินครั้งละปริมาณไม่เกิน 1 กำมือ เช่น ฝรั่งครึ่งลูก แอปเปิ้ล 1 ลูก สับปะรดหรือมะละกอหั่น 6 ชิ้นเล็ก ชมพู่ 2 ลูก

 

ที่มา สสส.