posttoday

พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ พ่อพระของพระเณร เปิดบ้านสอนบาลี

06 มกราคม 2562

เรื่อง: วรธาร ทัดแก้ว 

เรื่อง: วรธาร ทัดแก้ว 


หากถามพระหนุ่ม เณรน้อย พระเถระ พระมหาเถระ ในประเทศไทย ตลอดจนผู้ที่เคยบวชเรียนเขียนอ่านและสอบได้เปรียญธรรม (ป.ธ.) สูงๆ ตั้งแต่เปรียญธรรม 6 เปรียญธรรม 7 เปรียญธรรม 8 เปรียญธรรม 9 ไม่ว่าจะลาสิกขาไปแล้ว หรืออยู่ในสมณเพศ รู้จักผู้ชายที่ชื่อ “พ.อ.ดร.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์” หรือไม่

บอกได้เลยว่า น้อยเสียยิ่งกว่าน้อยที่ใครจะไม่รู้จัก เพราะปูมหลังของ พ.อ.ชรินทร์นั้น ไม่ธรรมดา ท่านสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค (ขณะเป็นสามเณร) ปี 2521 สำนักเรียนมหาพฤฒาราม กรุงเทพฯ และได้รับพระบรมราชานุเคราะห์อุปสมบทเป็นนาคหลวงในปีเดียวกัน เป็นอดีตอนุศาสนาจารย์กองทัพภาคที่ 2 อดีตอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ชีวิตท่านอยู่กับการสอนบาลีพระเณรมาตลอดตั้งแต่อยู่ในสมณเพศ พอลาสิกขามารับราชการทหารเป็นอนุศาสนาจารย์กองทัพบก สังกัดกองทัพภาคที่ 2 ก็ยังใช้เวลาว่างหลังเลิกงานราชการและวันหยุดไปสอนบาลีพระเณรในสำนักเรียนวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์

พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ พ่อพระของพระเณร เปิดบ้านสอนบาลี

ตอนนั้นชื่อเสียงในการสอนบาลีชั้น ป.ธ.8 ป.ธ.9 ของอาจารย์ชรินทร์ได้รับการกล่าวขานและยกย่องไปทั่วพระนครว่าเป็นผู้ที่มีเทคนิคการสอนแพรวพราวและหาตัวจับยากมาก ท่านคือผู้ที่สอนสิ่งที่ยากมากๆ ให้เป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดาย เหมือนประหนึ่งเปิดภาชนะที่คว่ำให้หงาย

ทำให้พระเณรที่มาเรียนด้วย ซึ่งมาจากวัดและสำนักเรียนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรู้สึกเรียนสนุกไม่รู้สึกเบื่อ ผู้เขียนเองเคยไปเรียนวิชาแต่งฉันท์มคธกับท่านที่วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ในปี 2535 เพียง 3-4 ครั้ง แต่ก็ได้ความรู้และเทคนิคแต่งฉันท์มาเพียบ โดยเฉพาะการสร้างคำฉันท์ที่สละสลวยและเป็นบาลีแท้ๆ

ไม่เพียงแค่นั้น ในปี 2535 อาจารย์ชรินทร์ได้ริเริ่มแนวคิดเปิดบ้านสอนบาลีให้กับพระเณรชั้น ป.ธ.8-9 ซึ่งเป็นชั้นประโยคที่เรียนยาก สอบได้ยาก และหาครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ได้ยาก ซึ่งท่านบอกว่าเป็นแนวคิดแปลกๆ ที่คนอื่นไม่คิดและทำกัน แต่ท่านกลับชอบคิดและทำอะไรที่แปลกๆ อยู่แล้ว

พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ พ่อพระของพระเณร เปิดบ้านสอนบาลี

พ.อ.ชรินทร์ เริ่มด้วยสร้างบ้านที่อยู่อาศัยก่อนที่ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จากบ้านธรรมดาหลังหนึ่งต่อมาก็สร้างศูนย์ขึ้นมา เรียกว่า “ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาบ้านกัลยธรรม” ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับบ้านแต่แยกคนละส่วน ในศูนย์มีสิ่งก่อสร้างและองค์ประกอบต่างๆ เหมือนวัด เช่น มีอาคารที่พักสงฆ์ มีศาลาอเนกประสงค์ มีพระพุทธรูป โต๊ะหมู่บูชา ห้องน้ำ เป็นต้น เพียงแต่ไม่มีโบสถ์และเมรุเท่านั้น

“การก่อสร้างศูนย์ไม่ได้เสร็จในปีเดียว ใช้เวลาหลายปีครับ เพราะผมรับราชการเงินเดือนก็ไม่ได้มาก ตอนนั้นมีประมาณล้านกว่าบาท สร้างอะไรได้ไม่เยอะ แต่ที่สำเร็จเป็นศูนย์ที่สมบูรณ์ใช้งานได้ในปัจจุบันมีแต่ผู้ใหญ่ใจบุญ ทั้งพระสงฆ์ ทั้งฆราวาส นักธุรกิจในเมืองโคราช และ อ.สูงเนิน และลูกศิษย์ที่เคยสอนมาช่วย

พระสงฆ์ อาทิ พระธรรมสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อจรัญ) วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ผมเป็นลูกศิษย์ท่าน วันหนึ่งท่านมาเยี่ยมที่บ้าน เห็นอาคารในศูนย์มีแต่หลังคาก็เอ่ยขึ้นเมื่อไหร่จะเสร็จ พอท่านกลับวัดก็โทรกลับมาขอสมุดบัญชีธนาคารผมแล้วให้ลูกศิษย์โอนเงินเข้าบัญชี 1.5 ล้านบาท หลวงพ่อคูณก็มาดูและช่วยอีก 2 แสน ทั้งสองรูปนี้มาเองนะผมไม่ได้นิมนต์มา แต่ท่านรู้ว่าผมเปิดบ้านสอนบาลีพระเณรเลยอยากมาดูกับตาตัวเอง

พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ พ่อพระของพระเณร เปิดบ้านสอนบาลี

นอกจากนี้ ยังมีพระสงฆ์หลายรูปที่ผมนับถือและฆราวาสที่รู้จักกันบ้างไม่รู้จักกันบ้างที่ทราบข่าวก็มาร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพภัตตาหารบ้าง น้ำปานะบ้าง เพราะผมจัดถวายภัตตาหารและน้ำปานะฟรี บางคนบางรูปไม่สะดวกเดินทางมาที่ศูนย์ก็โอนเงินเข้าบัญชี ช่วงที่ก่อสร้างอาคารก็จะมีเจ้าของกิจการในเมืองโคราชและใน อ.สูงเนิน มาช่วย

ฟากลูกศิษย์ที่ผมเคยสอนบาลี ซึ่งมีทั้งพระและฆราวาสก็มาอุปถัมภ์บำรุงในด้านต่างๆ เช่น ดร.อุทิส ศิริวรรณ ป.ธ.9 มาช่วยสร้างห้องน้ำให้ 10 ห้อง เป็นต้น ทุกวันนี้ทั้งพระสงฆ์ชาวพุทธใจบุญ และลูกศิษย์ก็ยังมาอุปถัมภ์อยู่เรื่อยๆ ต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่คอยให้กำลังกายแก่พระเณรผู้ทำหน้าที่สืบต่ออายุพระสนา”

อาจารย์ชรินทร์พูดถึงการเรียนการสอนว่า แรกเริ่มเดิมทีเปิดสอนมีพระเณรมาเรียนที่บ้านประมาณปีละ 2-3 รูป ส่วนใหญ่เป็นประโยค 8-9 ต่อมาพอตั้งศูนย์และมีอาคารที่พัก ก็มีพระเณรมาเรียนจำนวนมาก ดังนั้น พอใกล้สอบบาลีสนามหลวงของทุกปีจึงได้จัดโครงการอบรมพิเศษบาลีก่อนสอบชั้นประโยค ป.ธ.6-7-8-9 เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับพระเณรก่อนสอบ

พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ พ่อพระของพระเณร เปิดบ้านสอนบาลี

“โครงการนี้ผมเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2541 ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 22 ซึ่งกำหนดอบรมตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ไปถึง 5 ก.พ.เป็นเวลา 1 เดือน ปีนี้มีประโยค ป.ธ.9 จำนวน 33 รูป ประโยค บ.ศ.9 จำนวน 1 คน ป.ธ.8 จำนวน 26 รูป ป.ธ.7 จำนวน 8 รูป ป.ธ.6 จำนวน 5 รูป ป.ธ.4 จำนวน 3 รูป และประโยค 1-2 จำนวน 1 รูป อบรมทุกวัน”

ท่านใดที่ประสงค์ทำบุญเป็นเจ้าภาพภัตตาหารเช้า-เพล น้ำปานะแก่พระเณรที่เข้าอบรม หรือต้องการถวายเงินสำหรับใช้ในกิจการของศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาบ้านกัลยธรรมของ อาจารย์ชรินทร์ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรอาจารย์ชรินทร์ 08-5490-7961 และเข้าไปดูกิจกรรมของศูนย์ฯ ได้ที่เฟซบุ๊ก “ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์”

ทั้งนี้ การเปิดบ้านสอนบาลีให้กับพระเณรมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ของอาจารย์ชรินทร์จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่ได้กัลยาณมิตรที่กล่าวมา ที่สำคัญและขาดไม่ได้ก็คือภรรยาและลูกๆ ที่ล้วนเป็นสัมมาทิฐิกบุคคล คอยเป็นธุระจัดแจงช่วยเหลือทุกอย่างและยืนเคียงข้างอาจารย์ด้วยดีเสมอมา

ทว่า สิ่งที่ได้ยินแล้วต้องชื่นชมอาจารย์ชรินทร์อย่างแรงคือ ตอนนี้ท่านอายุ 63 ปี และเป็นโรคพาร์กินสัน แต่เชื่อไหมว่า ท่านยังเป็นบุรุษที่ใจแกร่งและเข้มแข็งมาก ยังสอนหนังสือพระเณรได้และจะยังคงทำต่อไปจนกว่าทำไม่ไหว เห็นปณิธานและความตั้งใจของท่านเช่นนี้แล้วบอกได้เลยว่าเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในสังคม