posttoday

(อย่า) กังวลกับอนาคต จนไม่กล้าก้าว

26 พฤศจิกายน 2561

ไม่มีใครที่เก่งมาตั้งแต่เกิด ในชีวิตคนเรามีโอกาสที่จะได้รู้ได้เห็นและได้จดจำสิ่งต่างๆ มากมาย

เรื่อง บีเซลบับ

ไม่มีใครที่เก่งมาตั้งแต่เกิด ในชีวิตคนเรามีโอกาสที่จะได้รู้ได้เห็นและได้จดจำสิ่งต่างๆ มากมาย เมื่อได้เรียนรู้อาจจะทีละเล็กทีละน้อย แต่เราก็จะทำดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือกระบวนการที่เท่าเทียมกันทุกคนหมด หากเราไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นสิ่งเรียนรู้เพื่อให้ได้มา เราก็จะลองท้าทายทำสิ่งใหม่ๆ ได้เสมอ

อย่ากังวลกับอนาคตจนไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า!

1.ทำไมไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพฤติกรรมชอบคาดเดาอนาคตว่า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จนกังวลวิตกไปเอง ทั้งที่จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครประกันได้ หรือทำอะไรต่อไปไม่ถูกก็มี ความจริงก็คือยิ่งคิดเช่นนั้นก็ยิ่งเป็นทุกข์ รู้สึกหวาดระแวงกับงานที่ทำอยู่ การกระทำเช่นนี้นี่แหละที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเอาแต่คิดแง่ร้ายกับเรื่องที่คุณมองไม่เห็น หรือเรื่องที่ไม่ได้มีการตกลงอะไรแน่ชัด

นี่อาจทำให้คุณกังวลใจจนนอนไม่หลับ ถ้าทำแบบนั้นแล้วช่วยแก้ไขปัญหาได้จริงๆ คงไม่มีใครว่าอะไร ถึงคุณจะคิดฟุ้งซ่านจนถึงรุ่งเช้า สถานการณ์ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คุณก็แค่ต้องเข้าใจตัวเอง แล้วทำใจให้สบาย เผชิญหน้ากับความเป็นจริง แล้วก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

2.ทุ่มเทกับเรื่องดีที่เป็นไปได้

หากเราทุ่มเทกับเรื่องใกล้ตัวจนเกิดผลลัพธ์ที่ดี ผลลัพธ์ที่ดีนั้นจะชักพาเรื่องดีๆ เรื่องอื่นๆ เข้ามาหา แต่หากไม่ลองพยายาม เราก็ไม่มีแม้แต่โอกาสที่เรื่องดีๆ จะเข้ามาหาเลย อย่ามัวยึดติดกับเรื่องที่คิดไปก็ไปไม่ได้ไกล และไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้วหันหน้ามาเผชิญกับสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ดีกว่า

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เวลาที่มานั่งกลุ้มใจกับเรื่องในอนาคตจึงเปล่าประโยชน์ นั่นหมายความว่าคุณต้องเปลี่ยนวิธีคิด หันมาสนใจกับเรื่องตรงหน้าแล้วทำมันอย่างดีที่สุดแทน

3.มุ่งมั่นฝึกฝน พัฒนาทักษะ

ในระหว่างหรือในจังหวะชีวิตของคนทุกคน คือการพัฒนาทักษะ และการมุ่งมั่นฝึกฝน เมื่อโอกาสมาถึงก็ไม่มีคำว่า ไม่เอา หรือไม่กล้า นี่เป็นเรื่องจริงที่คนทำงานหลายคนได้จดจำเงื่อนไขแห่งความทุกข์ และเชื่อมโยงมันไว้กับภาพจำแง่ลบ ที่เมื่อทับถมมากเข้าๆ ก็กลายเป็นแก่นแกนความคิด ที่ยึดติดกลายเป็นภาพจำของตัวเองไปจริงๆ และภาพนี้เองที่ทำให้เราต้องเสียโอกาสดีๆ ไปหลายครั้งในชีวิต

ทำไมเราไม่กำหนด “เงื่อนไขแห่งความสุข” และเชื่อมโยงมันไว้กับภาพจำแง่บวก คิดถึงปัจจัยแห่งความสุขและเครื่องมือสู่อนาคตที่แจ่มใสบ่อยๆ ด้วยวิธีนี้ คุณก็จะยืนต่อหน้าโอกาสดีๆ ในทุกจังหวะของชีวิต และจะไม่พลาดมันอีกเลย วิธีนี้ไม่เสียทั้งเงินไม่เสียทั้งเวลา เพราะตัวเราที่มีสวิตช์ควบคุมความสุขและการเดินทางไปสู่ความสำเร็จของเราเอง

4.กล้ากระโดดออกจากคอมฟอร์ตโซน

ความเป็นจริงก็คือ ความคิดเรื่องย้ายงานของคนทำงานจะเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับสภาพเศรษฐกิจ ความรู้สึกจะโลเลไปมาไม่ต่างจากลูกตุ้มนาฬิกา เปลี่ยนงานไปแล้วสักพักหนึ่ง ก็คิดอยากเปลี่ยนงานอีกด้วยเหตุผลต่างๆ

เมื่อเห็นสัจธรรมของการเปลี่ยนงานแล้ว ก็มองเข้าไปให้เห็นตัวเอง อย่างไรก็ตาม บางทีเหตุผลของการไม่กล้าเปลี่ยนงานอาจไม่ใช่เพราะเหตุผลแรกก็ได้ แต่ไม่กล้าเปลี่ยนงาน เนื่องจากไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงใหม่ๆ คิดเท่าไรก็ไม่ได้บทสรุปจนสุดท้ายก็รู้สึกแย่กับตัวเอง เพราะไม่กล้าตัดสินใจอะไรลงไป

คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ คุณต้องกล้าก้าวออกมาจากคอมฟอร์ตโซนนั่นเสีย แม้หน้าที่การงานที่ทำอยู่จะ “ปลอดภัย” เพียงใด แต่นัยหนึ่งก็เป็นกับดักที่ทำให้เราไม่อาจก้าวออกสู่โอกาสและความท้าทายใหม่ๆ อาจเริ่มด้วยลองพักสมองไว้ก่อน แล้วสร้างจินตภาพถึงตัวเลือกและโอกาสต่างๆ

คุณจะประหลาดใจว่า ในที่สุดคุณก็ได้พบทางเลือกที่ดีที่สุด!

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68