posttoday

ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี บันทึกประวัติศาสตร์ ด้วยภาพแห่งความสุข

22 กรกฎาคม 2561

“จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะมีโอกาสอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของโลก” ซึ่งก็ได้คำตอบชัดๆ แฝงอยู่ในประโยคนี้แล้ว

โดย  ชุติมา สุวรรณเพิ่ม ภาพ : OAT-CHAIYASITH

“จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะมีโอกาสอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของโลก” ซึ่งก็ได้คำตอบชัดๆ แฝงอยู่ในประโยคนี้แล้ว

“โอ๊ต” ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี ช่างภาพฝีมือเยี่ยมยุทธ์คนหนึ่งในวงการ ก็ไม่รีรอที่จะตีตั๋วไปประเทศอังกฤษ เดินทางไปเก็บภาพ “Royal Wedding” อีกครั้ง ในพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี กับ เมแกน มาร์เคิล เมื่อวันที่ 19 พ.ค. วันที่คนทั่วโลกจับจ้องข่าวแห่งความหวานชื่นนี้อย่างสุขหัวใจ

ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า “หลายๆ คนคงจะงงว่าทำไมผมต้องไป? ผมบอกได้คำเดียวเลยว่าหากคุณเคยอยู่ในบรรยากาศแบบนี้แล้ว คุณจะเข้าใจว่าทำไมผมต้องกลับไปอีกครั้ง หลังจากที่ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของ Royal Wedding 2011 งานพิธีเสกสมรสเจ้าชายวิลเลียมและแคทเธอรีน มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เมื่อปี 2011

ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี บันทึกประวัติศาสตร์ ด้วยภาพแห่งความสุข

“ตอนถ่ายภาพพิธีเสกสมรสงานเจ้าชายแฮร์รี คนที่อยู่จุดเดียวกับผม ไม่มีใครเลยครับที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์การเป็นส่วนหนึ่งของ Royal Wedding มาก่อน มีคนหนึ่งที่ผมเจอ เขาได้มาร่วมงาน Royal Wedding ถึง 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ครั้งพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ และก็ครั้งนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องมา

เพราะหลังจากครั้งนี้แล้วก็คงต้องรออีกทีคืองานของเจ้าชายจอร์จ กันเลยทีเดียว ถึงวันนั้นก็ไม่รู้ว่าผมจะถ่ายรูปไหวหรือเปล่า” ชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างติดอารมณ์ขัน

การบันทึกภาพประวัติศาสตร์ครั้งล่าสุด จากพิธีเสกสมรสของรัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ชัยสิทธิ์ทำด้วยความเชื่อมั่นในคุณค่าของภาพประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องน่ายินดีเพียงใดกับการร่วมในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต

ขอมีส่วนร่วมสร้างคุณค่าทางประวัติศาสตร์

เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ ที่มาที่ไปของแต่ละภาพ ชัยสิทธิ์ กล่าวย้ำอีกครั้งว่า เลือกที่จะไปอย่างช่างภาพธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่เชื่อในคุณค่าของภาพประวัติศาสตร์ โดยทำตัวเป็นประชาชนทั่วไปคนหนึ่งที่ถือกล้อง ไม่ได้ไปในฐานะช่างภาพ ซึ่งสำหรับโปรไฟล์ช่างภาพที่บุคลิกดูนิ่งๆ ดูถ่อมตน แต่ในวงการภาพถ่ายล้วนรู้จักชื่อเสียงที่ช่างภาพคนนี้สะสมไว้เป็นอย่างดี ในฐานะเป็นมือคว้ารางวัลภาพถ่ายจากสมาคมช่างภาพงานแต่งงานของโลก เขาคือช่างภาพคนไทยเพียงคนเดียวที่เป็นสมาชิก ถ่ายภาพงานแต่งงานเซเลบริตี้ระดับโลกมาแล้วหลายคู่ อีกทั้งในวงการโปรดักชั่นเฮาส์เขาคือมือถ่ายภาพนิ่งเจ๋งๆ หลายชิ้น

ชัยสิทธิ์ คือช่างภาพไทยเพียงคนเดียวที่เป็นเจ้าของอัลบั้มภาพงานพิธีเสกสมรสเจ้าชายวิลเลียม และแคทเธอรีน มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เมื่อปี 2011 ความตั้งใจบันทึกภาพประวัติศาสตร์ออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด

ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี บันทึกประวัติศาสตร์ ด้วยภาพแห่งความสุข

“ผมเป็นนักเรียนถ่ายภาพที่อังกฤษ เลือกเรียนประเทศนี้ เพราะรู้สึกผูกพันกับความมีราชวงศ์เหมือนเรา ผมเคยมีโอกาสทำงานให้สำนักพระราชวังของไทย ได้ถ่ายภาพพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ บันทึกภาพถ่ายขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เหตุการณ์สำคัญของประเทศที่ผมได้ทำเพราะได้รับโอกาสจากอาจารย์ของผม นพดล อาชาสันติสุข ท่านเคยเป็นเลขาธิการสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ เป็นผู้มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ทำให้ผมได้มีวันนี้ และได้รับเกียรติสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทยคนหนึ่ง ได้ถวายงานหลายๆ ครั้ง ได้ภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์

ผมโชคดีมากๆ ได้ทำงานบันทึกภาพพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ใน 2 ปีท้าย ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชดำเนินในพระราชพิธี ย้อนกลับไปก็ 13 ปีแล้วครับ ภาพเหล่านี้ถูกส่งไปเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ทำให้เห็นคุณค่าของภาพถ่าย ที่คือการบันทึกประวัติศาสตร์อย่างแจ่มชัดที่สุด

สำหรับการถ่ายภาพ Royal Wedding เจ้าชายวิลเลียมครั้งแรก ปี 2011 ก็ต้องถือเป็นโชคที่เราเรียนอยู่ที่อังกฤษในช่วงนั้น ซึ่งทั้งสองครั้งผมวางแผนการทำงานในฐานะประชาชนธรรมดาๆ เริ่มจากหาข้อมูลพิธีจากบทความและข่าว เดินสำรวจเส้นทางก่อน และหาตำแหน่งจุดที่ยืน ก็โชคดีที่ได้ยืนอยู่ถูกจุด ถูกที่ถูกเวลา ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ดีแบบเกินคาด แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีการคาดการณ์สร้างอัลบั้มภาพที่ครบสมบูรณ์ขนาดนี้เลยนะครับ”

ภาพรถพระที่นั่งวิ่งไปโบสถ์เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ เจ้าชายวิลเลียมและแคทเธอรีน มิดเดิลตัน จังหวะที่รถเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าผมพอดี ทั้งสองพระองค์ก็ทรงหันพระพักตร์มาพอดี ยิ่งเมื่อรวมกับองค์ประกอบของรูปในตอนนั้น ก็ดีมากๆ ธงยูเนี่ยนแจ็กด้านหลัง เพราะผมยืนอยู่ด้านหลังทั้งกลุ่มทหารม้า จุดนี้เป็นการเดินสำรวจพื้นที่ก่อนไปบล็อกจุด จองที่ไว้ครับ

อีกภาพสำคัญ ภาพที่พระราชวังบักกิ้งแฮม ทั้งสองพระองค์จุมพิตต่อหน้าประชาชน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากครับ ช่วงที่รอพระราชพิธีด้านใน ผมเดินไปเดินมาเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบๆ ท่ามกลางคนนับแสน ผู้คนหลั่งไหลกันจับจองเต็มพื้นที่ด้านหน้าแล้ว จุดที่ผมยืนอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ภาพช็อตสำคัญ และด้วยตำแหน่งที่ผมอยู่ทำให้ ขยับเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ได้มาก แต่ก็มีเหตุการณ์ที่พลิกสถานการณ์ส่งให้เราโชคดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยครับ มีฝรั่งปีนเสาไฟขึ้นไปแล้วโทรศัพท์หาแม่เขา แล้วตะโกนลงมาท่ามกลางคนกว่าแสนๆ คนว่า ‘Everyone says hello to my mom.’ ทุกคนก็ส่งเสียง ‘เฮ...’ ดังมาก ถ้าตำรวจวิ่งเข้ามาจับ ตำรวจจะจับผู้ชายบนเสาไฟก่อน

ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี บันทึกประวัติศาสตร์ ด้วยภาพแห่งความสุข

ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ผมกระโดดลงไปในสระน้ำพุทันที เพื่อถ่ายช็อตนี้ และบันทึกได้ครบถ้วนทุกพระองค์ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธเสด็จพระราชดำเนินพร้อมเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ และเจ้าชายแฮร์รี”

ชัยสิทธิ์ เล่าเบื้องหลังการบันทึกชุดภาพประวัติศาสตร์นี้ ทำงานเพียงลำพัง ไม่มีทีมกล้องช่วยอะไรเลย แต่ก็โชคดีซ้อนโชคดียิ่งขึ้นไปอีก ช่วงที่อยู่ในน้ำพุได้ยินเสียงคนไทยคุยกัน ก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้ช่วยบันทึกรูปตัวเองครั้งนี้ให้ จึงได้ภาพแห่งความทรงจำนี้กลับมาด้วย

ทุกอย่างเกิดขึ้น“เพียงครั้งเดียว” ในเสี้ยวนาที

ในพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี กับ เมแกน มาร์เคิล ในปีนี้ ชัยสิทธิ์เดินทางไปเก็บภาพงานพิธีเสกสมรสประหนึ่งช่างภาพธรรมดาๆ คนหนึ่งอีกเช่นเคย

“ความยากในการถ่ายภาพงานระดับโลกเช่นนี้ คือจำนวนคนมหาศาลและระยะที่ไกลมากเกินกว่าเลนส์ธรรมดาจะบันทึกได้คมชัด แต่ก็เตรียมตัวดีกว่าครั้งก่อน เรื่องอุปกรณ์ใช้เลนส์เทเลให้ซูมได้ไกลขึ้น วิธีการทำงานของผมก็คือวางแผนต้องการภาพช่วงรถม้าวิ่งผ่าน แต่ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะต้องได้ภาพดีที่สุดแบบนั้นแบบนี้เลยนะครับ ก็พยายามเดินเข้าไปให้ใกล้ที่สุด 6-7 เมตร เส้นทางที่รถม้าวิ่งผ่าน สไตล์รูปถ่ายของผม คือการเล่าเรื่องราวด้วยภาพ สื่อสารความรู้สึกได้อย่างชัดเจน นำเสนอมุมที่มีชีวิตชีวา

จุดที่ขบวนสวนสนามออกไปรับเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน อยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์ห่างจากลอนดอนราว 45 นาที ผมนั่งรถไฟเที่ยวแรกจากที่พักมาถึงที่นี่ 6 โมงเช้า คนนับแสนอีกเช่นเคยครับมารอรับเสด็จ พิธีเสกสมรสรอบนี้เดินทางมาจากทั่วโลก คนอังกฤษรักเจ้าชายพระองค์นี้มาก มีคำกล่าวว่า Cool prince ever สิ่งที่ไม่แตกต่างเลยคือจำนวนคน แต่ลักษณะงานเฉลิมฉลองก็จะแตกต่างจากพระเชษฐาโดยสิ้นเชิงเลยนะครับ คือมีความสุขแล้วยังมีความสนุกสนานด้วย เป็นเหมือนเฟสติวัลมากกว่ารอยัลเวดดิ้ง ทุกคนแต่งตัวจัดเต็มมาก แต่งตัวเป็นกิมมิก ดาราคนดัง เด็กผู้หญิงแต่งตัวเป็นเจ้าสาวน่ารักๆ ทุกคนสนุกกับการเป็นส่วนหนึ่งของพิธีนี้ นั่นคือสิ่งที่แสดงว่าคนอังกฤษรักเจ้าชายพระองค์นี้มากๆ ทรงเท่ ทรงคูลที่สุดในราชวงศ์ ประชาชนเข้าถึงพระองค์ได้ง่าย

ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี บันทึกประวัติศาสตร์ ด้วยภาพแห่งความสุข

ครั้งนี้ผมเตรียมตัวค่อนข้างดี กล้อง 2 ตัว เพื่อไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์โดยสนับสนุนจากแคนนอน การถ่ายภาพในแบบช็อตนี้กำลังจะเล่าเรื่องอะไรบางอย่างได้ เช็กข่าวแล้วครั้งนี้ช็อตจุมพิตอยู่ด้านในโบสถ์ เราจึงไม่มีโอกาสถ่ายช็อตนี้แน่นอน แต่จะได้ภาพขบวนรถม้าพระที่นั่ง ผมอยู่สำรวจพื้นที่รอบพระราชวังวินด์เซอร์ 4 วัน ออกจากที่พักตี 4 ครึ่ง ไปถึงจุดตั้งแต่ 6 โมงเช้า กว่าจะได้ถ่ายภาพคือบ่ายโมงครึ่ง ร่วม 8 ชั่วโมงที่เราต้องรอคอยเวลา ซึ่งช่วงเสด็จมาเร็วมากครับ ขบวนมีลักษณะเกาะกลุ่มกัน มองไม่เห็นทั้งสองพระองค์เลย เพราะระยะห่างของทหารม้านำขบวนและรถม้าพระที่นั่งอยู่ติดกันมาก ม้าก็ตัวสูงมาก บังหมด ฝรั่งก็ตัวใหญ่ เราคนไทยตัวเล็กๆ ก็ใจแป้วแล้วครับ

รู้ตัวอีกทีคือ รถพระที่นั่งอยู่ตรงหน้าเราแล้ว จังหวะที่ยกกล้องขึ้นมา ทั้งสองพระองค์หันพระพักตร์ไปอีกด้าน เราก็ยิ่งลุ้นเข้าไปใหญ่ โชคดีที่พระองค์มาพอดี ทรงโบกพระหัตถ์ให้กล้องของเราวินาทีนั้นเรากดชัตเตอร์รัวๆ เลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมใช้เวลาแค่ 4 วินาทีสำหรับภาพช็อตนี้ครับ โชคดีที่ได้ยืนในจุดที่ยืน ที่ผมเลือกนาทีสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ

ไม่มีงานเสกสมรสของราชวงศ์ใดในโลก ที่จะยิ่งใหญ่เท่าราชวงศ์อังกฤษแล้วนะครับ แล้วผมก็สามารถเก็บภาพได้ครบทั้งสองพระองค์ในเจเนอเรชั่นนี้”

ชัยสิทธิ์ บอกทิ้งท้ายขอแค่เป็นช่างภาพคนหนึ่งที่ได้บันทึกงานประวัติศาสตร์ของโลกรูปถ่ายคือการเล่าเรื่องราวได้อย่างมีชีวิต