posttoday

เหงา...เข้าใจ

21 กันยายน 2559

จากประสบการณ์ทางเพจของฉัน ฉันไม่ได้พิมพ์ผิด เป็นการประมวลผลในเพจ “ว.แหวนแฟนคลับ”

โดย...ว.แหวน ภาพ... เอพี

จากประสบการณ์ทางเพจของฉัน ฉันไม่ได้พิมพ์ผิด เป็นการประมวลผลในเพจ “ว.แหวนแฟนคลับ” ของฉันเอง และทำให้ฉันค้นพบว่า “โลกออนไลน์เกินครึ่งเป็นโลกของคนเหงา” หลายคนอาจเห็นขัดแย้งว่า “จะเหงาได้อย่างไร? ลองดูจำนวนเพื่อนที่รับเข้ามาสิ เหยียบหลักพันเข้าไปแล้ว” หรือบางคนก็โต้แย้งว่า “การนั่งจิ้มมือถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว นี่ก็มีเพื่อนนั่งอยู่ข้างๆ หลายคนนะ ต่างคนต่างจิ้มกันไป”

แต่สำหรับฉัน ฉันมองว่า “การก้าวเข้ามาในโลกออนไลน์ ไม่ใช่การก้าวเข้าสู่สังคมหมู่” ในนั้นอาจดูเป็นเช่นนั้น มีคนกดไลค์เรา แสดงความคิดเห็น แชร์กันไปมา อินบ็อกซ์หากัน แต่หากลองถอดวิญญาณออกมามองตัวเอง เราจะเห็นว่า...ภาพที่เห็นตัวเอง ณ ขณะนั้น มันคือ “ความโดดเดี่ยว” มันคือ “การอยู่กับตัวเอง” ไม่ใช่เพราะเราไม่มีใคร แต่เราเลือกแล้ว บางคนเสพติดโซเชียลเพราะไม่มีใครจริงๆ สาเหตุอาจมาจากบกพร่องในเรื่องความสัมพันธ์ หรือเบื่อหน่ายสังคมที่จับต้องได้ แต่บางคนก็เผลอเลือกความสัมพันธ์ที่มีระยะห่าง เพราะอาจจะรู้สึกสบายตัว ตามใจตัวเองได้ เมื่อไรก็ได้ที่เราต้องการ อยู่กับเราในทุกที่ที่เราไป ถ้าเราไม่ก้าวเข้าไป ก็ไม่มีใครก้าวออกมา เอาที่สบายใจ เต็มใจที่จะเหงา!

และจากประสบการณ์ทางเพจของฉัน “ความเหงาก้อนใหญ่สุดในนั้น มีสาเหตุมาจากความรัก” เป็นโสด ไม่มีคนจีบ ทะเลาะกับแฟน เพิ่งเลิกกับแฟน อยากมีแฟนใหม่ แฟนเก่าจากไป แฟนใหม่ยังไม่มา และอีกหลากหลายปัญหาชีวิตคู่ ที่ยังไม่ผ่านการสะสาง แก้ไข เว้นระยะกันไป แล้วปล่อยให้คนใดคนหนึ่งไม่เข้าใจ จนสุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่ “ความเหงา”

และจากประสบการณ์ทางเพจของฉัน (อีกที) “ประเด็นความเหงาจากความรักก้อนใหญ่สุด คือการไม่มีคนรัก” ไม่ว่าอารมณ์แอบรักเขา รักเขาแต่เขาไม่รัก รักเขาแต่เขาเลิกรัก รวมไปถึงการรอคอย คอยการกลับมา คอยใครบางคนที่เราเรียกว่า “เนื้อคู่” คอยการแก้ไข คอยให้เขาง้อ คอยคำตอบ

อย่างที่ฉันได้กล่าวไว้ว่า “สังคมโซเชียล” ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง คือทำงานตลอด 24 ชั่วโมงจริง แต่คนที่เรารอคอย เขาจะอ่านตอนไหน? เขาจะตอบมามั้ย? เมื่อไรเขาจะติดต่อกลับมา? ออนไลน์ให้ตาย หากคนเหงาเป็นเราคนเดียว ความโดดเดี่ยวก็ยิ่งเห็นเด่นชัดขึ้น

ถ้ามีระบบฝากข้อความอัตโนมัติ ฉันว่าควรจะมีเสียงพูดออกมาว่า “ฝากคำรักเอาไว้...แล้วจะติดต่อกลับไป” ฟังแล้วนึกถึงเพลงลูกทุ่ง แต่ความรักของคนเราก็ไม่ต่างจากเพลงลูกทุ่งบางเพลง โดยเฉพาะความรักที่เกิดขึ้นข้างเดียว โดดเดี่ยว และรอคอย

ฉันมองว่าการรอคอยความรักของคนบางคน ที่แทบไม่มีแม้แต่ความหวัง เป็นเหมือนการใช้โทรศัพท์ ที่คงทำได้แค่ฝากข้อความ ไม่มีค่าแม้แต่การรับสาย ไลน์ตอบ หรือเปิดอ่าน ต่อให้ 4จี หรือ 5จี แค่คิดก็ถึงเลย เราก็ยังไม่มีสิทธิทำให้เขาเปิดอ่าน หรือส่งข้อความตอบกลับมาได้

บางครั้ง ความหวังของเรา...ก็ขึ้นอยู่กับความเหงาของเธอ! (คำพูดของคนเหงา) คงเป็นเหตุผลเดียว ที่คนรอเหลือไว้ให้หวัง หวังให้เขาคิดเช่นกัน หวังให้เธอเหงาเหมือนเรา!

เพจของฉันส่วนหนึ่งจึงกลายเป็นชุมชนคนเหงา ที่เพียงอยากได้ข้อความดีๆ คำโดนใจ ไม่ว่าจะมาในแนวตอกย้ำชีวิต หลอกด่า (เพราะวิสัยการเขียนของฉันมักจะสอดไส้เรื่องนี้เข้าไปแบบเนียนๆ อยู่เสมอ) หรือสร้างพลังแรงใจ ให้เหงาต่อไปอย่างแข็งแรง

ทีแรกฉันก็ประหลาดใจที่ได้พบว่า “คนที่เหงา และเฝ้ารอคอยความรัก มีมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” สิ่งหนึ่งที่ฉันกำลังพยายามจะทำคือ “การสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนแข็งแกร่งให้ได้ในตัวเอง” อ่านข้อความแล้วเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ แล้วลองไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวให้มีความสุข อย่ามัวแต่แชร์ความเหงาอยู่ในโลกที่จับต้องไม่ได้ เหงาให้งาม มิใช่เหงาจนใครๆ แอบนินทาว่า “สมควรเหงา!”

อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องตลก! เพราะต่อให้มีคนรัก ฉันก็เชื่อว่าเราทุกคนมีจังหวะเหงา!

หลายคู่ก็เริ่มต้นความรักมาจากความเหงา “ถ้าไม่ใช่เพราะเหงา...เราก็คงไม่เจอกัน” ความรักบนโลกออนไลน์จึงพร้อมเกิดขึ้นได้ทุกวัน ฉันคิดว่าจุดเริ่มต้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มาจากความเหงา บางคนอาจมองว่ามันจะจีรังยั่งยืนได้แค่ไหน?

ถามหน่อยเหอะว่า “แล้วความรักที่เริ่มจากความตั้งใจ ไยจึงจบลงได้เช่นกัน?”

บททดสอบความรัก ในยุคก่อนๆ อาจวัดกันที่ความอดทน ความพยายาม แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แล้วไยความรักจะเริ่มต้นด้วยเหตุผลง่ายๆ ไม่ได้ “อย่าดูถูกการรอคอยของใคร และอย่ามองไม่เห็นความหมายของความเหงา”

เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำให้ฉันรู้ว่า คำบางคำของฉันก็ยังมีค่าต่อชีวิตผู้อื่น!