ผู้ชายวัย 40 อัพ แซ่บ ซ่า ดับเครื่องชน
บรรยายความรู้สึกไม่ถูกกันเลยทีเดียว เมื่อสามหนุ่มสามมุมสุดฮอตขวัญใจหญิงสาว เปิดเผยอายุกันว่าวิ่งสู่หลักสี่ 40 แล้ว (กรี๊ดๆๆๆ จริงหรือคะ?)
โดย...กอง บก. ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช
บรรยายความรู้สึกไม่ถูกกันเลยทีเดียว เมื่อสามหนุ่มสามมุมสุดฮอตขวัญใจหญิงสาว เปิดเผยอายุกันว่าวิ่งสู่หลักสี่ 40 แล้ว (กรี๊ดๆๆๆ จริงหรือคะ?) แต่ขอร้องคำว่า “ลุง” สรรพนามที่เรียกหนุ่มใหญ่วัยนี้ ก็คงจะนำมาเรียกขานพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด เพราะด้วยการดูแลตัวเอง ใครว่าผู้ชายไม่กลัวแก่ล่ะ?!! เขาใส่ใจตัวเอง เป๊ะ! ไม่ว่าการดูแลรูปร่างสุดเฟิร์ม ทรีตเมนต์หน้าตา และบุคลิกสุดเนี้ยบ หรือถ้ามองไปที่หน้าที่การงาน
มั่นคง สาวๆ ต้องหัวใจอ่อนระทวยไปตามๆ กันเลยล่ะ
ก็เพราะชายหนุ่มวัยนี้เขามาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบ...ทุกเรื่องจริงอะไรจริง!!!
‘ไม่เคยถูกใครเรียก...ลุงนะครับ!!!’
ทำงานมา 20 กว่าปีในวงการบันเทิง “เปปเปอร์ ยูเอชที” ใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ลุคได้ใจวัยรุ่น แต่วันนี้ต้องแต่งตัวให้เป็นผู้ใหญ่ “ดูภูมิฐาน” เหมาะสมกับหน้าที่การงาน รัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือ ETDA ด้วยตำแหน่งระดับบริหาร ซึ่งมากับดีกรีดอกเตอร์ สาขาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อดีตพระเอกหนุ่มมาดสุดเนี้ยบ บอกว่าเปลี่ยนจากเสื้อยืดมาใส่สูททั้งวัน
“...แต่จะว่าไปแฟนๆ ก็ไม่แปลกหูแปลกตานะครับ ผมเล่นละคร 10 กว่าเรื่อง ก็เป็นพระเอกใส่สูทเชิ้ตขาวสไตล์นักธุรกิจแบบลุคนี้ 7-8 เรื่องแล้วครับ” รัฐศาสตร์ พระเอกหล่อลุคไฮโซที่ผันตัวเองมาทำงานราชการ บอกพร้อมรอยยิ้ม
ใครจำละครเรื่อง เล่ห์รตี ได้ เปปเปอร์ รัฐศาสตร์ ในวัย 28 ปี บอกว่า วันนั้นคือพรของชีวิตที่ทำงานได้ประสบการณ์ใหม่
“บทพระเอกเรื่องนี้ตรงกับนิสัยผมที่สุดครับ บทท้าทาย เป็นพระเอกร้ายดุๆ เข้มๆ (ลูกน้องแอบกระซิบคอนเฟิร์ม คุณเปปเปอร์เป็นเจ้านาย ดุ ม-า-ก) ชอบใครก็ไม่เปิดเผยความรู้สึกจริงให้เธอรู้ (หัวเราะเขิน) ซีเรียสในเรื่องงานมาก เวลาทำงานผมจริงจังมาก แต่ก็เป็นสมัยอายุ 30 กว่าปี ทำงานจน 4-5 ทุ่มทุกวัน โดยเฉพาะในช่วง KPI วัดความสำเร็จของงาน ร่างกายก็แย่ จิตใจก็เครียด มีอะไรมากระทบสักนิด Upset ได้ทันที ทุ่มเทอยู่แต่กับงาน เสาร์อาทิตย์วันพักผ่อนก็คิ้วขมวดคิดถึงเรื่องงาน
ปีนี้ 40 ปีเต็มครับ ผมจึงพยายามบาลานซ์ 3 เรื่อง คือ ข้อแรก การให้เวลาในเรื่องงาน เพราะวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็ต้องปล่อยวางเรื่องงานให้ได้ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ผ่อนไม่เป็นแบบนั้น เพื่อข้อสอง เราจะได้มีเวลาให้ครอบครัวและได้อยู่กับคนที่รัก และข้อสาม ให้เวลากับตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชอบ เล่นกีฬา ผมเล่นดนตรีเป็นการ
พักผ่อนนะครับ โดยมีวงซ้อมกันจริงจัง ผมเล่นกีตาร์ ก็ยังฟิตแกะโน้ตเพลงโชว์อยู่นะครับ” รัฐศาสตร์ กล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใสดูอ่อนวัย ไม่น่าเชื่อกับวัยวิ่งเข้าสู่หลัก 4 เป๊ะ คำตอบมาพร้อมกับเสียงหัวเราะร่วน
“อย่าไปซีเรียสครับ ผมไม่เคยกลัวเลข 4 เพราะผมเชื่อว่าอายุตัวเลขนั้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ อีกหลายปัจจัย ไม่ใช่สิ่งตายตัวที่บ่งบอกความเป็นเรา วัยนี้ผมยังไม่เคยถูกเรียกลุงนะครับ (หัวเราะ) แล้วก็ไม่มีสิทธิเป็นลุงด้วย เพราะผมเป็นลูกคนสุดท้อง (ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจอีก) แต่ผมเป็นคุณอาแล้วครับ เพราะพี่ชายผมมีลูกแล้ว ซึ่งตอนแรกที่ถูกเรียกว่าคุณอาก็ตกใจนะครับ เพราะเด็กเล็กๆ หรือแฟนคลับวัยรุ่นก็เรียกเราว่าพี่เปปเปอร์ แต่ในที่สุดพอได้เล่นกับหลาน ได้กอดหลาน ผมรู้สึกอบอุ่นผูกพัน ผมชอบคำว่าคุณอาเปปเปอร์มากเลยครับ” รัฐศาสตร์ บอกอารมณ์ดี
ถ้าได้กลับไปแสดงละครแล้วได้บทพ่อล่ะ? รัฐศาสตร์ บอกทันที แม้การแสดงคือการสวมบทบาทอื่นที่ไม่ใช่เรา แต่ก็ขอมีข้อแม้ “ต้องมีการปรับปรุงรูปแบบให้คนดูเชื่อครับ ถ้าผมรับบทพ่อแบบปีเตอร์มีลูกสาวพรีทีน เพราะพ่อมีลูกตั้งแต่วัยรุ่น โอเคครับ เพราะละครคือการสะท้อนชีวิตจริง แล้วเรื่องจริงก็มีพ่อวัยปลายๆ 30 แต่ถ้าเป็นคุณพ่อของลูกวัย 20 กว่า ไม่ไหวนะครับ ผมว่าละครสมจริงคนดูต้องให้สบายตาด้วย
หน้าตาผมใช้สกินแคร์ทั่วไปครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) คงได้ต้นทุนผิวดีจากคุณแม่ ผมไม่ได้ดูแลผิวมาก สบู่ล้างหน้าก็ใช้สบู่ก้อนล้างตัวนั่นแหละ ผมเชื่อว่าก็เหมือนการกินอาหารนั่นแหละครับ ถ้ากินแต่ของดี ก็อยากกินดีขึ้นเรื่อยๆ กินของธรรมดา ใช้ของธรรมดา แบบนี้ถ้าโอเคถือว่าเพอร์เฟกต์แล้วครับ แต่ผมให้ความสำคัญกับเรื่องเสื้อผ้า เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติสถานที่ เพราะผมต้องเป็นวิทยากรบรรยาย เป็นตัวแทนราชการบ่อยๆ จึงเน้นสูทภูมิฐาน แต่สไตล์ผมไม่ผูกเนกไท
ส่วนการออกกำลังกาย ผมเล่นกีฬาเวกบอร์ด เพราะตอนเรียนปริญญาโทที่อิลลินอยส์ สหรัฐ ผมเล่นสโนว์บอร์ด ซึ่งเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมใส่เต็มไปเลย
ผมอยากมีครอบครัวครับ แต่วันนี้ยังไม่ลงตัวหลายอย่าง ทั้งเรื่องงานก็อยู่ในช่วงปรับตัว กับการเริ่มต้นในปีแรกๆ กับองค์กรใหม่ ซึ่งเป็นภาครัฐ วัยนี้คือวัยผมกำลังโฟกัสอยู่กับการสร้างทีมงานแข็งแกร่ง เรื่องงานสำคัญที่สุดครับ” รัฐศาสตร์ กล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มแบบพระเอกมาดนุ่ม
‘ผมไม่เคยกลัวใครเรียก...ลุง’
หนุ่มนักธุรกิจมีดีกรีดอกเตอร์ คุ้นหน้ากันดีในแวดวงสังคม ณัฐกฤษณ์ ทิวไผ่งาม คุณสมบัติครบถ้วน ทั้งการศึกษา การงาน กับหน้าที่ผู้บริหารโรงเรียนทิวไผ่งาม เอ็มดีผู้บริหารทริปเปิลเอ็น เจ้าของรีสอร์ท “วู้ดแลนด์ เมืองไม้” แหล่งท่องเที่ยวใหม่มาแรงของ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่นี่มีทั้งพิพิธภัณฑ์เก็บสะสมงานไม้แกะสลักชั้นเยี่ยมนับพันๆ ชิ้น มีรูปแบบการนำเสนอแบบธีมพาร์ก รีสอร์ทและห้องสัมมนา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน
“ตอนนี้กำลังจะเปิดรีสอร์ทและพิพิธภัณฑ์ซึ่งคุณพ่อสร้างไว้ ส่วนผมทำเรื่องการตลาดและดูเรื่องการนำเสนอ โดยพิพิธภัณฑ์ใช้ระบบอินเตอร์เรคทีฟสื่อสารแบบสองด้านกับคนดู เล่าเรื่องผ่านประติมากรรมไม้แกะสลักเป็นเรื่องราววรรณคดีเรื่องหนึ่ง เป็นงานท้าทายที่สุดในวันนี้ครับ เพราะนักท่องเที่ยวที่หดหายไป เหลือแค่ 40% ทั้งที่เป็นไฮซีซั่นของทวีปยุโรปแล้ว ขณะที่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมได้รับผิดชอบโครงการทิวทาวเวอร์ คอนโดสูง 400 กว่ายูนิต ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขายหมดได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี รีสอร์ทแห่งใหม่กำลังจะเปิดในไตรมาสแรกของปี 2559 ครับ” ณัฐกฤษณ์ นักธุรกิจหนุ่มวัย 44 ปี บอกพลางโชว์รอยยิ้มสดใส
งานที่ทำสวมบทบาทหมวก 3 ใบ สำเร็จไปหนึ่ง เหลืออีกสอง ทำให้เวลางานหดจากวันละ 10 ชั่วโมง เหลือแค่ 7-8 ชั่วโมง ถือว่าทำงานไม่หนักเกินไป
“วัยนี้ผมให้ความสำคัญสองเรื่องนะครับ คือ เรื่องงานในฐานะผู้บริหารผมโชคดีมากๆ ได้คนเก่งมาร่วมทีม ทำให้เราไม่ต้องใช้พลังกับเรื่องนี้จนชีวิตไม่บาลานซ์ อีกเรื่องผมให้ความสำคัญกับสุขภาพ ร่างกายแข็งแรงสวยงาม คือสิ่งที่เราครอบครองได้ ผมเปรียบกับเรามีบ้านใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ขณะกับร่างกายนั้นคือสิ่งที่อยู่กับเราไปทุกๆ สถานที่นะครับ
ผมออกกำลังกายในฟิตเนส และสร้างทีมไตรกีฬาในนามรีสอร์ท คือ ทีมวู้ดแลนด์ ขึ้นมาโดยผมขี่จักรยานไทม์ไทรอัล โดยมีเป้าหมายชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งทีมเราก็ได้เป็นแชมป์ไตรกีฬาหลายๆ สนามครับ เช่น ลากูน่า ภูเก็ต หัวหิน พัทยา ส่วนกรุงเทพฯ ไตรกีฬามาเป็นที่สอง ตอนนี้จึงทุ่มซ้อมหนักขึ้น เพื่อขึ้นแท่นแชมป์ให้ได้ ผมเชื่อว่ามนุษย์เราไม่เหมือนปลากระป๋องที่คัดเลือกฝูงเดียวกันเกิดและตายใกล้เคียงกัน แต่คนเราแม้วัยเกิดปีเดียวกัน แต่ถ้ารู้จักดูแลร่างกายตัวเองเราก็จะแตกต่างจากคนทั่วไป
การแข่งขันแต่ละครั้ง รุ่นผมไม่จำกัดอายุ จึงมีคนหนุ่มวัยรุ่น 18-20 ปี มาร่วมแข่งกับเราด้วย แต่ผมปั่นเข้าที่ 1 นะครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) ผมเชื่อว่าถ้าคุณมีวินัย คุณก็เก่ง คุณก็ย้อนวัยของตัวเองได้นะครับ” ณัฐกฤษณ์ กล่าว
นักธุรกิจหุ่นนักกีฬาเต็มตัว มีกล้ามท้องหรือซิกซ์แพ็กแบบ 8 ลูก เรื่องยากและเป็นหุ่นที่ใครก็อยากได้ อกและกล้ามแขนชัดเจน ทั้งหมดนี้เกิดจากการฝึกฝนด้วยตัวเอง จากการศึกษาด้วยตัวเองโดยไม่มีเทรนเนอร์
“เรื่องรูปร่างก็มีคนชมว่าแข็งแรงพอๆ กับนักกีฬาอายุ 20 กว่า แต่เรื่องหน้าตาผมว่าใบหน้าอ่อนกว่าวัยไม่กี่ปีหรอกครับ (หัวเราะเขิน) คนก็ชมบ่อยๆ ว่าไม่นึกว่า 40 แล้ว เพราะผมเล่นกีฬาเอาต์ดอร์ ตากแดดตากลม ก็ทาครีมกันแดดนะครับ แต่ไม่ถึงกับทาซ้ำบ่อยๆ ตามนิสัยผู้ชายที่ไม่กังวลนัก วัยนี้ใครจะเรียก ลุง น้า อา หรือพี่ อะไรก็ได้ครับ ผมไม่กลัว ไม่ถือสาว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรเลย แต่ก็ไม่มีใครเรียกผมว่าลุงนะครับ (หัวเราะ) แต่ผมได้เป็นน้าเอกแล้ว ลูกของพี่สาวครับ”
ดอกเตอร์นักธุรกิจหนุ่ม บอกว่า หลักการใช้ชีวิต ณ วัยนี้ ง่ายมาก แค่สุขนำทุกข์ มีเวลาหลังจากทำงานก็ปวารณาให้กับการออกกำลังกาย ส่วนแผนในปีหน้าเขาตกลงกับแฟนสาวที่เป็นสปอร์ตเกิร์ลเช่นกัน จะลั่นระฆังวิวาห์แล้ว
‘...เรียกผมลุง น่ารักดีออก’
โจอี้ บอย หรือ อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต คืออีกหนุ่มบุรุษที่ขึ้นชื่อว่ายิ่งอายุเยอะยิ่งแซ่บ งานนี้เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของแบรนด์แว่นสุดแนว “Deck Funglasses” และนิตยสาร “TAN” ที่กำลังจะวางแผงในเดือนที่จะถึง ซึ่งคาดว่าจะฮอตในหมู่วัยรุ่นถึงการบริหารเสน่ห์ของเฮียว่ามีวิธีเด็ดดวงเช่นไร ถึงทำให้ดูไม่แก่สมฐานะเลข 40 หมาดๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มขำๆ ก่อนจะพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงปนสนุกว่า เท่กว่าพี่ก็มีแต่โดม ...
“จริงๆ แล้วงานที่ผมทำอยู่มันเป็นงานที่ให้พลังเยอะนะ มันก็เหมือนเราได้ดูแลตัวเองอยู่แล้วในทุกวัน แต่จริงๆ แล้วผมก็จะมีกิจกรรมเล่นกีฬาตามปกติอยู่แล้ว มีเข้ายิมสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ถ้ามีโอกาส แล้วก็ปั่นจักรยาน ซึ่งตอนนี้ก็จริงจังมาก แล้วอย่างที่มีคนบอกว่าเรายิ่งแก่ยิ่งแซ่บ ก็จริงๆ ไม่มีอะไรมากเลยนะ ตัวผมเองผมว่าผมหน้าตาเหมือนเดิมนะ แก่ไปตามวัย (หัวเราะ) แล้วที่คนว่าแซ่บ ผมว่าคนอาจจะเห็นผมบ่อยขึ้นเสียมากกว่าจากรายการต่างๆ แต่ถ้าคนจะมองว่าผมดูดีขึ้นคงต้องขอยกเครดิตให้กับคนที่ดูแลการแต่งตัวแต่งหน้า และก็จัดทรงผม
ผมจะมีทีมสไตลิสต์ส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่ในเรื่องงาน แต่ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ในไลฟ์สไตล์ประจำวัน ถ้าไปงานพวกเขาก็จะเป็นแก๊งที่ดูแลลุคของเราเลย ต้องยกประโยชน์ให้เลยว่าคือคนที่ทำให้โจอี้ บอย เปลี่ยนลุค
อีกอย่างที่ทำให้ผมดูไม่แก่คงเป็นเพราะผมใช้ชีวิตปกตินะ ให้มีความสุข ผมว่าเวลาเรามีความสุขมันก็สบายใจ มันไม่เครียด แล้วงานที่ทำมันก็มีผลด้วยนะ อย่างผมก็ทำงานที่มีความสุข ซึ่งผมว่าตรงนี้แหละที่ทำให้คนเราแม้จะอายุเยอะแต่ก็ดูดี นั่นคือการใช้ชีวิตให้มีความสุข
ส่วนถ้าถามว่าตอนนี้ใครจะมาเรียกเราว่าลุงเราจะโกรธไหม บอกเลยว่าไม่เลยนะ ดีออก น่ารักดีด้วย (หัวเราะ) จริงๆ ก็ได้เวลาที่สมควรแล้วนะ เราว่าดูน่ารักดี”
