posttoday

ชาวสวนต้านนำเข้าปาล์ม กระทบราคารับซื้อในประเทศ

20 มกราคม 2558

ปัญหาสินค้าเกษตรดูจะเป็นเรื่องหินสำหรับรัฐบาล ไม่เพียงแค่ข้าวและยางพาราที่เกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือราคาที่ตกต่ำมาเป็นระยะ

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ปัญหาสินค้าเกษตรดูจะเป็นเรื่องหินสำหรับรัฐบาล ไม่เพียงแค่ข้าวและยางพาราที่เกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือราคาที่ตกต่ำมาเป็นระยะ ล่าสุดมาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 5 หมื่นตัน ของรัฐบาล โดยอ้างว่าน้ำมันปาล์มในประเทศไทยกำลังมีแนวโน้มขาดแคลนและสต๊อกน้ำมันปาล์มลดลงจำนวนมาก เหลือเพียงไม่ถึง 1 แสนตันเท่านั้น ก็กำลังสร้างความไม่พอใจให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม

ล่าสุดวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ ที่รวมกันเป็นสมาพันธ์สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ก็จัดประชุมด่วนขึ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐบาลคัดค้านการนำเข้าน้ำมันปาล์ม

มนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุว่า จะยื่นหนังสือคัดค้านต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ม.ค.นี้ เนื่องจากส่งผลกระทบกับราคาปาล์มในประเทศอย่างรุนแรง หากคัดค้านไม่สำเร็จชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วประเทศจะออกมาเคลื่อนไหว เพราะเห็นว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มเป็นการแสวงหาประโยชน์จากคนบางกลุ่มเท่านั้น มีเป้าหมายนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศอินโดนีเซียที่มีราคาเพียง 18-20 บาทเศษ/ลิตร ขณะที่ประเทศไทยราคา 33 บาท ซึ่งแตกต่างกันมาก

“ราคารับซื้อผลปาล์มสุกที่โรงงานรับซื้อปาล์มสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 6.10 บาท เป็นราคาที่ดีสำหรับชาวสวนปาล์ม หากคณะรัฐมนตรีมีมติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ จะส่งผลกระทบกับราคารับซื้อจากเกษตรกรอย่างแน่นอน เพราะอีก 1-2 เดือนข้างหน้าปริมาณผลปาล์มตามฤดูกาลจะออกสู่ตลาดมากขึ้น” มนัส กล่าว

ด้าน ชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์ม จ.ตรัง กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลได้ตรวจสอบสต๊อกในประเทศก่อนว่ามีน้ำมันปาล์มจำนวนเท่าใด โดยให้มีตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วมภาคละ 1 คน และให้มีการศึกษาข้อมูลว่ามีการขาดแคลนจริงหรือไม่ และจำนวนเท่าใด หากจะมีการนำเข้าต้องเป็นไปตามความจำเป็นเท่านั้น เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบกับราคาในประเทศ เนื่องจากแค่มีกระแสข่าวว่าจะนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศ ส่งผลให้ราคาปาล์มลดลงแล้วกิโลกรัมละ 40 สตางค์ หากรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาต้องฟังและศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าตัดสินใจอะไรโดยไม่มีข้อมูล และนำเงินภาษีของประเทศไปช่วยเกษตรกรที่อยู่นอกประเทศกับพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะเป็นการไม่ยุติธรรมกับเกษตรกรในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองกลุ่มอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน กลับมองว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศในครั้งนี้เป็นความจำเป็น เนื่องจากผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอความต้องการ

มานิต วงษ์สุรีย์รัตน์ รองประธานอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่รัฐจะนำเข้าปาล์มน้ำมันอาจส่งผลให้ราคาปาล์มในประเทศลดลงเล็กน้อย แต่คงไม่มีผลกระทบมากนัก โดยราคาน้ำมันปาล์มวันนี้อยู่ที่ 5.80-6 บาท/กิโลกรัม ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่สูง เนื่องจากผลผลิตไม่มีขาดตลาด โดยจะเป็นเช่นนี้แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น คือระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. แต่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศนั้นมีมากกว่าปริมาณผลผลิต

“ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันปาล์มเดือนละ 90 ล้านลิตร ในขณะที่ตอนนี้เราผลิตได้ 40 ล้านลิตร หากไม่มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ส่วนที่ขาดไปนั้นจะทำอย่างไร จากการสำรวจข้อมูลขณะนี้พบว่า ประชาชนผู้บริโภคกำลังจะขาดแคลนน้ำมันปาล์ม การนำเข้าน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบเช่นกัน” มานิต กล่าว

ต้องจับตาดูว่า หลังคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กปน.) มีมติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศจำนวน 5 หมื่นตันแล้ว ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ จะมีความเห็นเป็นอย่างไร หากยังยืนยันนำเข้า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ปาล์มน้ำมันจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กลายเป็นปัญหาของรัฐบาลอีกหรือไม่