posttoday

ธุรกิจคิดได้จากการเดินทาง นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ

10 กรกฎาคม 2555

นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์พี อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ในวัย 32 ปี กำลังเริ่มต้นธุรกิจใหม่

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์พี อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ในวัย 32 ปี กำลังเริ่มต้นธุรกิจใหม่ วันนี้มาเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปก่อนเปิดตัว “หัวหินสเตย์” ธุรกิจบริหารจัดการให้เช่าห้องพักระดับพรีเมียม ที่แนวคิดได้มาจากการเดินทางท่องเที่ยวโลกของเจ้าตัวเอง นิสัยรักการท่องเที่ยวที่สร้างธุรกิจใหม่ๆ สู่บลูโอเชียน ณ ชายหาดคลาสสิก หัวหิน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร คงต้องให้เจ้าตัวเล่า

ชีวิตของนนทิวัฒน์ หรือจอร์จ ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากเจ้าตัวบอกเองว่าโรยด้วยก้อนอิฐก้อนหิน ระหกระเหินลุ่มๆ ดอนๆ เช่นเดียวกับถนนสายแห่งความยากลำบากสายอื่นๆ ชีวิตของเขาพลิกกลับมาได้ด้วยไอเดียล้ำๆ และความอดทนที่ยาวนาน จุดเริ่ม (วิกฤต) คงเป็นในช่วงเรียนปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ตอนนั้นที่บ้านทำธุรกิจเทเลคอมและธุรกิจรถเช่า ซึ่งรับผลกระทบเต็มๆ จากวิกฤตต้มยำกุ้ง แผนเดิมก็ว่าจบจุฬาฯ แล้วจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เมื่อบาทลอยตัว อะไรจะเกิดขึ้น

“ธุรกิจที่บ้านไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆ แต่คุณพ่อก็ตัดสินใจให้ผมกับพี่ชายไปเรียนต่อตามแผนเดิม เพราะมองว่าถึงเด็กๆ จะอยู่ที่นี่ ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” จอร์จ เล่า

ธุรกิจคิดได้จากการเดินทาง นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ

 

ธุรกิจที่บ้านดำดิ่งสู่ก้นเหว หนี้สินส่วนใหญ่มาจากอัตราแลกเปลี่ยน ยังจำได้ถึงความคิดแบบเด็กๆ ตอนนั้นว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง จากคนที่เคยร่ำรวยมีฐานะ เมื่อวานขี่เบนซ์หรูหราคันใหญ่ แต่เพียงคืนเดียวให้หลัง ก็กลายเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว พี่ชายจอร์จอยู่เมืองนอกก็ไปเรียนเหมือนกัน สองคนพี่น้องเหมือนแพแตก แต่ดีที่มีหลักยึดว่า ยังไงต้องเรียนให้จบ

ชายหนุ่มไปเรียนเอ็มบีเอที่มหาวิทยาลัยออริกอน สหรัฐ มุ่งมั่นทุ่มเทกับการเรียน เพียง 10 เดือนก็สำเร็จการศึกษา มารดา “อัจฉรีย์ วิเศษศิริ” อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บงล.ศรีธนา พาลูกชายไปฝากกับ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ด้วยตัวเอง เข้าทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย เพราะคิดว่าธุรกิจที่บ้านคงล้มละลายแน่ แต่สถานการณ์ที่แบงก์ก็แย่มากเช่นกัน คนในแบงก์ (ถูก) ปรับออกเป็นว่าเล่น เขานั่งทำงานด้วยใจกลัดกลุ้ม เต็มที่ 3 เดือนไม่เกิน ก่อนลุกขึ้นมาเขียนใบลาออก

“ถึงอยู่ที่แบงก์ก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร ผมคิดอย่างนี้ เราจะปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปทำไม ที่บ้าน...ยังไงก็คือบ้าน กลับไปกอบกู้ธุรกิจที่บ้านดีกว่า ถึงอยู่ที่นี่ก็กอบกู้แบงก์ไม่ได้ แต่ถ้าอยู่บ้าน เรากอบกู้บ้านของเราได้”

เมื่อนึกย้อนขึ้นมา นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะเขากับพี่ชาย ซึ่งเรียนจบกลับมาไล่เรี่ยกัน ได้ช่วยกันกอบกู้ธุรกิจที่บ้านจนสำเร็จ โดยใช้เวลาน้อยมาก 3 ปี จากธุรกิจที่ถูกขายเป็นเอ็นพีแอล ก็พลิกฟื้นและปลดหนี้กว่า 100 ล้านบาทได้ ต้องขอบคุณความเด็ดเดี่ยวของทุกคนที่ร่วมมือกัน และโชคดีด้วยที่ได้โครงการใหญ่ๆ สนับสนุน ทั้งจากบริษัท โมโตโรล่า และระบบเครือข่ายออเรนจ์ หรือทรูในยุคเริ่มต้น

“เราเป็นซัพพลายเออร์เทเลคอมรายใหญ่ที่สุดในขณะนั้น จนต่อมาจึงได้ร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ๆ ของในประเทศและต่างประเทศ จะถือเป็นโชคก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้ใช้โชคอย่างเดียว จำได้ว่าเรามุมานะกันมาก ทุกคนทำงานหนัก ทั้งจุดแข็งที่เราพัฒนาเป็นบริษัทที่มีไฮเทคนิคอลชั้นสูงระดับเอเชียแปซิฟิก ซึ่งน้อยรายจะมีในจุดนี้ ทุ่มเทกำลังกันเต็มที่ ทำทุกอย่างที่เป็นเงิน แม้กระทั่งงานแม่บ้าน ผมก็ทำมาแล้ว” จอร์จ เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ

ธุรกิจคิดได้จากการเดินทาง นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ

 

ช่วงหนึ่งของชีวิตที่จอร์จบอกว่า สุดยอดมากที่ผ่านมาได้ ปัจจุบันเขาเริ่มทำธุรกิจใหม่เกี่ยวกับการบริหารห้องพักให้เช่า ชื่อ หัวหินสเตย์ รับบริหารจัดการห้องพักให้เช่า คอนโดมิเนียม หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรูหราริมชายหาดหัวหิน หรือที่เรียกว่า หัวหินสเตย์ โมเดล การบริหารห้องพักที่ถอดแบบมาจากโมเดลต่างประเทศ โดยเฉพาะนิวยอร์ก ปารีส และฮอกไกโด ซึ่งฮิตระเบิด

ห้องพักที่หัวหินสเตย์รับบริหารอยู่ในปัจจุบัน เน้นกลุ่มระดับบน ได้แก่ห้องพักในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ระดับพรีเมียม โดยการบริหารจัดการใช้ระบบออนไลน์ Payment Gateway ซึ่งเป็นระบบปิดแบบครบวงจร มีการสร้างระบบคำนวณราคา ระบบทำความสะอาด ระบบเช็กอินเช็กเอาต์ และระบบการจ่ายเงินที่สะดวกรวดเร็วเป็นธรรม เจ้าของห้องไม่จำเป็นต้องตอบรับทางโทรศัพท์แม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าถึง 2.53 เท่า

“การบริหารจัดการใช้วิธีมาตรฐานจากต่างประเทศ Handle High Volume ด้วยวิธีนี้เราจึงเป็นผู้บริหารห้องพักให้เช่าแบบเบ็ดเสร็จ เจ้าของห้องได้รับประโยชน์สูงสุด แถมสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องวุ่นวายรับโทรศัพท์เหมือนปล่อยเช่าผ่านเอเยนต์ท้องถิ่น” จอร์จ เล่า

สำหรับห้องพักที่ให้บริการให้เช่าในปัจจุบันมีทั้งหมด 50 ห้อง และคาดว่าจะขยายเป็น 80100 ห้อง ในปลายปีนี้ ธุรกิจใหม่ได้ไอเดียระหว่างท่องเที่ยวส่วนตัว ผลพลอยได้จากการพบเจอเพื่อนฝูงและแนวคิดธุรกิจใหม่ๆ จากต่างประเทศ เมื่อเห็นว่ามีความเป็นไปได้ก็ลุยทันที ปรากฏว่าประสบความสำเร็จจริงๆ ธุรกิจเปิดตัวเมื่อปลายปีก่อน หากตอนนี้ผู้คนบอกกันปากต่อปาก

“ห้องพักของหัวหินสเตย์ ได้รับผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 10% ภายใน 10 เดือน โดยเว็บหัวหินสเตย์ดอทคอมอยู่อันดับ 1 ในกูเกิล และมีการเสิร์ช 11.8 ล้านเสิร์ชในหัวหิน” จอร์จ เล่า

ชีวิตวันนี้หายใจเข้าออกเป็นการทำงาน สนุกกับธุรกิจใหม่ และสนุกกับการดูแลธุรกิจหลักของครอบครัว คือ ธุรกิจเทเลคอม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกิจการรถเช่า รวมทั้งภรรยา “เขมวดี วิเศษศิริ” ก็กำลังจะให้กำเนิดลูกคนแรก

ธุรกิจคิดได้จากการเดินทาง นนทิวัฒน์ วิเศษศิริ

 

คงต้องบอกว่า เป็นปีแห่งความสุขและความสำเร็จ

คู่ใจหนุ่มนักบริหาร

1.ไอแพด

เป็นคนชอบทำธุรกิจ โดยสร้างธุรกิจบนความพึงพอใจ เหมือนคนทำงานศิลปะที่สร้างภาพ (วิชวล) ในใจก่อนลงมือจริง ความสุขคือการได้เห็นธุรกิจเป็นไปอย่างที่อยากให้เป็นไป ไอแพดขาดไม่ได้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการงานในชีวิตประจำวัน

2.ไอโฟน

เช่นเดียวกับไอแพด ที่การทำงานในแต่ละวันขาดไม่ได้ จะถือเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ก็คงได้

3.กล้อง

งานอดิเรกคือการถ่ายภาพขาวดำ ขณะเดียวกันก็เป็นกรรมการชมรมถ่ายภาพขาวดำแห่งประเทศไทย ความชอบนี้เป็นไปเอง รูปขาวดำนั้นเสน่ห์ล้ำลึก และแม้ว่าจะชัดเจนถึงการมาแทนที่ของดิจิตอลในปัจจุบัน แต่ความรักที่ลุ่มหลงยังคงดำรงอยู่ อะไรคือขาว อะไรคือดำ จอร์จ บอกว่า คงต้องตอบไปชั่วชีวิต

4.กระเป๋า

กระเป๋าใบเก่งที่หอบหิ้วไอโฟน ไอแพด และกล้อง 3 สิ่งที่ต้องติดตัว อีกอย่างคือเลเซอร์ สำหรับจิ้มไอแพดนั่นเอง

5.นาฬิกา

ความชอบส่วนตัวที่สะสมเป็นคอลเลกชัน ขออนุญาตนำเฉพาะเรือนที่รักสุดมาลง เป็นนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน จากสวิตเซอร์แลนด์ คือ ไบร์ทลิง รุ่น Navitimer Perpetual Calendar Limited ทั่วโลกมี 1,000 เรือน (เป็นของจอร์จ 2 เรือน)