กัมพูชาแฉเจอแผนฆ่าฮุนเซน
จับมือดีจ่อบึ้มใกล้เวทีฮุนเซน ทัวร์เขมรโอดท่องเที่ยวเจ๊ง
โพสต์ทูเดย์
— จับมือดีเตรียมแผนลอบสังหารนายกฯ ฮุนเซน ทัวร์เขมรโอดการท่องเที่ยวเสียหายหนัก วอนสองฝ่ายเลิกสู้เพื่อบ้านเมืองเว็บไซต์เคอีมีเดีย รายงานอ้างข้อมูลจาก ชานโคซาน รองอธิบดีกรมตำรวจบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ซึ่งระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชายคนหนึ่งซึ่งกำลังเตรียมติดตั้งระเบิดในพื้นที่ห่างจากเวทีที่ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดการก่อสร้างถนนหมายเลข 59 จังหวัดบันเตียเมียนเจย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เพียง 1 กิโลเมตร
ทางการกัมพูชาเชื่อว่าชายคนดังกล่าวได้รับการว่าจ้างให้กระทำการดังกล่าว ขณะที่ ออร์โบริน รองผู้บังคับการกองทัพในบันเตียเมียนเจยไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย และยังคงไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นการลอบสังหาร
ด้านหนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ รายงานว่า กลุ่มผู้ประกอบการสมาคมการท่องเที่ยว 6 แห่งในกัมพูชา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาและไทยยุติการปะทะกันบริเวณพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
“
ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่าย ระหว่างวันที่ 5–7 ก.พ.ที่ผ่านมา เราไม่ต้องการให้เกิดสงครามหรือการปะทะกับคนไทย แต่เราต้องการเปลี่ยนพรมแดนระหว่างกัมพูชาไทย ให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ร่วมต่อทั้งสองฝ่าย” แถลงการณ์ร่วมระบุโฮแวนดี ประธานร่วมของกลุ่มทำงานเพื่อการท่องเที่ยวในกัมพูชา กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ปราสาทพระวิหารจะได้รับความเสียหาย รวมไปถึงชื่อเสียงของทั้งสองประเทศด้วย
นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้ประชาคมโลก โดยเฉพาะองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้ความมั่นใจว่าปราสาทพระวิหารจะปลอดภัย และได้รับการบูรณะความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็ว
ทางด้าน สกจันโมณี ประธานสมาคมรถโดยสารกัมพูชา กล่าวว่า ยอดผู้โดยสารลดฮวบลงแล้ว 40
– 50% ระหว่างช่วง 3 วันของเหตุปะทะกันทางชายแดน นอกจากนี้ยอดนักท่องเที่ยวตามสถานที่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร อาทิ บ้านสะแอม และเมืองอัลลองเวง ก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งหากการปะทะกันยังยืดเยื้อก็จะยิ่งเสียหายรุนแรงอย่างไรก็ตาม ทองคง รัฐมนตรีการท่องเที่ยวกัมพูชา ยังคงยืนกรานว่า ไม่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการการท่องเที่ยวนับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.เป็นต้นมา โดยไม่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทชายแดน เพียงแต่ก็ยอมรับว่าหากปัญหาชายแดนยังคงยืดเยื้อก็อาจส่งผลในระยะยาวได้


