ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่ม AI
ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดบวกจากดีลความร่วมมือ Amazon–OpenAI ขณะที่ทิศทางนโยบายการเงินเฟดยังไม่ชัดเจน เนื่องจากขาดข้อมูลจากภาวะชัตดาวน์
KEY
POINTS
- ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- หุ้น Amazon พุ่งขึ้น 4.0% หลังประกาศข้อตกลงมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์กับ OpenAI เพื่อให้บริการคลาวด์ AWS
- หุ้น Nvidia ปรับตัวขึ้น 2.2% จากข่าวนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะสงวนไมโครชิปรุ่นล้ำหน้าไว้สำหรับบริษัทในประเทศ
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดวันจันทร์ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและดีลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แม้ว่าทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระยะสั้นยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากขาดข้อมูลเศรษฐกิจทางการของสหรัฐฯ จากภาวะ “ชัตดาวน์” ของรัฐบาล
หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นในกลุ่มสาธารณสุขอย่าง UnitedHealth Group และ Merck ร่วงลง 2.3% และ 4.1% ตามลำดับ กดดันให้ดัชนี ดาวโจนส์ ปิดในแดนลบ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาด คือการประกาศของ Amazon ว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับ OpenAI เพื่อให้ผู้พัฒนา ChatGPT สามารถดำเนินงานและขยายขนาดระบบ AI บนโครงสร้างคลาวด์ของ Amazon Web Services (AWS) ส่งผลให้ราคาหุ้น Amazon พุ่งขึ้น 4.0%
ขณะเดียวกัน หุ้น Nvidia ปรับขึ้น 2.2% หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่าสหรัฐฯ จะสงวนไมโครชิปรุ่นล้ำหน้าที่สุดของบริษัทไว้ให้เฉพาะบริษัทอเมริกัน และจะไม่ส่งออกไปยังจีนหรือประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี การขาดข้อมูลเศรษฐกิจทางการจากภาวะชัตดาวน์ทำให้ตลาดจับตาข้อมูลจากสถาบันจัดทำดัชนีภาคการผลิต ได้แก่ Institute for Supply Management (ISM) และ S&P Global ซึ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯ ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์
ทั้งนี้ ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ มีกำหนดพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการภาษีศุลกากรในวันพุธนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานอาจได้รับสัญญาณเพิ่มเติมจากรายงานการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ในวันเดียวกัน
เจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ย โดย สตีเฟน มิแรน กรรมการเฟด เห็นว่าควรพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่ ออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก แสดงความระมัดระวัง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% ของเฟด
ดัชนี อุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 226.19 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 47,336.68 จุด
ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.77 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 6,851.97 จุด
และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 109.77 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 23,834.72 จุด
ราคาน้ำมันดิบโลกทรงตัว โดย น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 64.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 61.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินและข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอในเอเชีย
ขณะที่ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนรอประเมินแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมของเฟดจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาทองสปอตอยู่ที่ 4,002.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 4,014 ดอลลาร์ต่อออนซ์.


