นิวเคลียร์ระอุ ปูตินเผย รัสเซียทดสอบตอร์ปิโด “โพไซดอน” ได้สำเร็จ
ปูตินเผยรัสเซียทดสอบอาวุธทางยุทธศาสตร์แบบใหม่ ตอร์ปิโด “โพไซดอน” ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ลั่นยังไม่มีระบบใดในโลกที่สกัดกั้นได้
KEY
POINTS
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศความสำเร็จในการทดสอบตอร์ปิโด “โพไซดอน” ซึ่งเป็นอาวุธขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้
- โพไซดอนมีความสามารถในการสร้างคลื่นยักษ์ปนเปื้อนกัมมันตรังสีเพื่อทำลายพื้นที่ชายฝั่ง โดยปูตินอ้างว่าเป็นอาวุธที่ไม่มีใครเทียบและไม่สามารถสกัดกั้นได้
- การทดสอบนี้ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณของรัสเซียต่อชาติตะวันตก ท่ามกลางความตึงเครียดจากสงครามในยูเครน และการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ยุคใหม่
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (29 ตุลาคม) ว่า รัสเซียได้ดำเนินการทดสอบตอร์ปิโด “โพไซดอน” (Poseidon) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้สำเร็จ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารระบุว่า อาวุธชนิดนี้มีศักยภาพในการทำลายพื้นที่ชายฝั่งเป็นบริเวณกว้าง ด้วยการสร้างคลื่นมหาสมุทรปนเปื้อนกัมมันตรังสีขนาดมหึมา
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซียมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ รัสเซียเพิ่งดำเนินการทดสอบขีปนาวุธร่อนแบบใหม่ “บูเรเวสต์นิก” (Burevestnik) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม และซ้อมรบปล่อยอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับโพไซดอนอย่างจำกัด แต่แหล่งข่าวทางทหารระบุว่า อาวุธดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างตอร์ปิโดและโดรน สามารถเคลื่อนที่ใต้น้ำได้ในระยะไกลและมีศักยภาพในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ปูตินกล่าวระหว่างการพบปะกับทหารรัสเซียที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามในยูเครน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก ว่า การทดสอบเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราสามารถปล่อยโพไซดอนจากเรือดำน้ำได้สำเร็จ พร้อมทั้งเดินเครื่องระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถทำงานได้ตามที่คาดหวัง” ปูตินกล่าว พร้อมยืนยันว่า “ยังไม่มีอาวุธใดในโลกเทียบเท่าได้ และไม่มีระบบใดสามารถสกัดกั้นโพไซดอนได้” โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า ตอร์ปิโดรุ่นนี้สามารถเดินทางได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตร ด้วยความเร็วประมาณ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การทดสอบโพไซดอนและบูเรเวสต์นิกถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนจากมอสโก ว่ารัสเซียจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากชาติตะวันตกในประเด็นสงครามยูเครน
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเคยกล่าวหาว่ารัสเซียเป็น “เสือกระดาษ” ที่ไม่สามารถพิชิตยูเครนได้อย่างรวดเร็ว มองว่าการทดสอบดังกล่าวเป็นการยืนยันว่ารัสเซียยังคงเป็นคู่แข่งทางทหารระดับโลก โดยเฉพาะในด้านศักยภาพนิวเคลียร์ และสะท้อนถึงความจำเป็นที่สหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญต่อข้อเสนอของมอสโกเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์
อาวุธโพไซดอนกับการแข่งขันด้านนิวเคลียร์ยุคใหม่
โพไซดอน หรือชื่อรหัสของนาโต้ว่า “แคนยอน” (Kanyon) เป็นอาวุธยุทธศาสตร์รุ่นใหม่ในยุคที่ปูตินมองว่า โลกกำลังเผชิญการแข่งขันด้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน
รายงานจากสื่อรัสเซียระบุว่า โพไซดอนมีความยาวประมาณ 20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.8 เมตร และมีน้ำหนักราว 100 ตัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาวุธเตือนว่า อาวุธชนิดนี้อาจละเมิดกติกาการยับยั้งนิวเคลียร์แบบดั้งเดิม เนื่องจากคาดว่าจะสามารถบรรทุกหัวรบขนาด 2 เมกะตัน และขับเคลื่อนด้วยเตาปฏิกรณ์แบบหล่อเย็นด้วยโลหะเหลว
ปูตินย้ำว่า พลังทำลายของโพไซดอน “สูงกว่าขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มาท์ (Sarmat)” หรือที่นาโต้เรียกว่า “Satan II” ซึ่งถือเป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่ทรงพลังที่สุดของรัสเซียในปัจจุบัน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่รัสเซียประกาศโครงการพัฒนาโพไซดอนและบูเรเวสต์นิกเมื่อปี 2018 ปูตินระบุว่า เป็นการตอบโต้ต่อการที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากสนธิสัญญาจำกัดระบบป้องกันขีปนาวุธ (ABM Treaty) เมื่อปี 2001 และการขยายอิทธิพลของนาโต้ไปยังยุโรปตะวันออก
หลังการทดสอบขีปนาวุธบูเรเวสต์นิก ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องให้ปูตินยุติสงครามในยูเครน แทนที่จะมุ่งเน้นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่


