"Big Tech" ควักกระเป๋า! ทุ่มทุนสร้างห้องบอลรูมใหม่ให้ "ทรัมป์"
"Big Tech" ควักกระเป๋า หันซบทรัมป์! ทุ่มทุนสร้างห้องบอลรูมใหม่ให้ทำเนียบขาว สวนวิกฤตชัตดาวน์ คาดแลกผ่อนปรนคดีผูกขาด
ท่ามกลางภาวะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงชะงักงันระหว่างการ "ชัตดาวน์" (Shutdown) แต่ความเคลื่อนไหวภายในทำเนียบขาวกลับเป็นไปอย่างคึกคักในสัปดาห์นี้
เมื่อทีมก่อสร้างได้เริ่มปฏิบัติการรื้อถอนปีกตะวันออก (East Wing) ของทำเนียบขาว เพื่อเปิดทางให้กับโครงการก่อสร้าง "ห้องบอลรูม" ใหม่สุดหรู
ด้วยขนาดมหึมาถึง 90,000 ตารางฟุต โดยมีประมาณการว่าจะสามารถรองรับแขกได้มากถึง 1,000 คน ตามการรายงานจากนิตยสาร TIME
ที่น่าสนใจคือ โครงการมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ ไม่ได้ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนแม้แต่เซนต์เดียว
แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เงินทุนที่มาจากการบริจาคของภาคเอกชนทั้งหมด เพื่อเนรมิตส่วนต่อขยายให้กับทำเนียบขาว
ทำเนียบขาวได้เปิดเผยบัญชีรายชื่อผู้สนับสนุนโครงการดังกล่าว ซึ่งปรากฏชื่อของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (Big Tech) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกาหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Apple, Google, Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) และ Microsoft
นอกจากนี้ ยังรวมถึงบริษัทด้านกลาโหมอย่าง Palantir และ Lockheed Martin ตลอดจนผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อย่าง Comcast และ T-Mobile
แม้แต่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีก็ไม่ตกขบวน โดยมีเงินสนับสนุนจาก Coinbase, Ripple, Tether America และสองพี่น้องฝาแฝด Winklevoss
ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนว่าผู้บริจาคแต่ละรายทุ่มเงินสนับสนุนเป็นจำนวนเท่าใด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เงินบริจาคอย่างน้อย 20 ล้านดอลลาร์จาก Google นั้น เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยอมความในคดีฟ้องร้องล่าสุด
กรณีที่ YouTube (บริษัทในเครือ) สั่งระงับบัญชีของทรัมป์หลังเหตุจลาจลบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
ตามรายงานจากสำนักข่าว TechCrunch ที่ได้สอบถามไปยัง Google ว่าเงินก้อนดังกล่าวถือเป็นยอดบริจาคทั้งหมดของบริษัทหรือไม่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา
พลิกสัมพันธ์ Silicon Valley? "เทคฯ" หันซบ "ทรัมป์"
ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่าง Silicon Valley และ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
หากย้อนไปในสมัยแรกที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2016 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีส่วนใหญ่เคยแสดงจุดยืนต่อต้านเขาชนิดหัวชนฝา
แต่ทว่าในสมัยที่สองนี้ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (Big Tech) กลับหันมา "กระชับสัมพันธ์" กับทรัมป์อย่างชัดเจน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Meta ซึ่งในอดีตไม่ได้บริจาคเงินเข้ากองทุนพิธีสาบานตนครั้งแรกของทรัมป์เลย
แต่กลับทุ่มเงิน 1 ล้านดอลลาร์สำหรับพิธีในสมัยที่สองของทรัมป์ เช่นเดียวกับ Amazon ที่เคยบริจาคเพียง 58,000 ดอลลาร์ในครั้งแรก แต่กลับเพิ่มยอดบริจาคอย่างก้าวกระโดดเป็น 1 ล้านดอลลาร์ในครั้งนี้
"ผลประโยชน์ต่างตอบแทน" แลกคดีผูกขาด-ดัน AI
นักวิเคราะห์มองว่า อุตสาหกรรมเทคฯ อาจเต็มใจที่จะร่วมมือกับรัฐบาลทรัมป์ชุดปัจจุบันมากขึ้น ด้วยเหตุผลสำคัญคือ
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้กำลังเผชิญหน้ากับการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อต้านการผูกขาดอย่างหนักหน่วง
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทรัมป์มีท่าทีที่ไม่แข็งกร้าวเท่าใดนัก ในการบังคับใช้กฎหมายด้านนี้ เมื่อเทียบกับยุคของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ซึ่งมี ลีน่า คาน (Lina Khan) นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC)
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังแสดงท่าที "รุกหนัก" กว่ารัฐบาลชุดก่อน ในการผลักดันการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ทางการเงินมหาศาลสำหรับบริษัทที่กำลังเร่งสร้างเทคโนโลยีนี้
ในแผนปฏิบัติการด้าน AI (AI action plan) ที่ทรัมป์เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม คณะบริหารของเขาได้สรุปเป้าหมายชัดเจนที่ว่าจะ "ลดกฎระเบียบยุ่งยากซับซ้อน"
และอัดฉีดเงินทุนของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั่นเอง


