ราคาทองทะลุ 4,000 เหรียญ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบจากความกังวลเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลงในวันอังคาร หลังนักลงทุนขาดข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาล ส่งผลให้ต้องหันไปพึ่งพาตัวชี้วัดรองและถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในระยะต่อไป

 

ทั้งสามดัชนีหลักปิดในแดนลบ หลังจากรายงานการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก (New York Federal Reserve) ระบุว่าความคาดหวังทางเศรษฐกิจในอนาคตเริ่มอ่อนแอลง ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น รายงานดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนข้อมูลทางการจากรัฐบาลซึ่งเข้าสู่วันที่เจ็ดของการปิดทำการอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในสภาคองเกรส

 

นักลงทุนจึงต้องอาศัยข้อมูลทางเลือกจากหน่วยงานอิสระและคำแถลงจากผู้กำหนดนโยบายการเงิน เพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองของปี ในการประชุมนโยบายภายในเดือนนี้

 

นายสตีเฟน มิแรน (Stephen Miran) ผู้ว่าการเฟด ได้ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยเตือนว่าการคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ

 

ดัชนี ดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ลดลง 91.99 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 46,602.98 จุด

ดัชนี S&P 500 ลดลง 25.69 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 6,714.59 จุด

ส่วนดัชนี แนสแด็กคอมโพสิต (Nasdaq Composite) ลดลง 153.30 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 22,788.36 จุด

 

ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัว นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ที่น้อยกว่าคาด กับสัญญาณของภาวะน้ำมันล้นตลาด 

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ เบรนท์ (Brent) ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 65.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ขณะที่น้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส (WTI) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 61.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ด้านราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงความคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมปิดตลาดที่ 4,004.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.7%