กองทัพเนปาลคุมเข้มเมืองหลวง หลังการจลาจลเสียชีวิตกว่า 20 ราย

กระแสความไม่สงบปะทุขึ้นจากกลุ่ม Gen Z ที่ไม่พอใจมาตรการสั่งแบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อสัปดาห์ก่อน แม้รัฐบาลได้ยกเลิกในเวลาต่อมา แต่ความรุนแรงได้ลุกลามอย่างหนัก โดยมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์จากการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมฝูงชน กระทรวงสาธารณสุขเนปาลเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย และบาดเจ็บกว่า 600 คน

ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่แสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาคอร์รัปชันและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้ การเคลื่อนไหวจึงถูกขนานนามว่าเป็นการประท้วงของ “Gen Z” โดยกลุ่มผู้ประท้วงเสนอชื่อ นางสุศิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ

การประท้วงได้ลุกลามไปยังรัฐสภาและอาคารราชการหลายแห่ง รวมถึงบ้านพักรัฐมนตรีและบ้านพักส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี ชาร์มา โอลี ซึ่งถูกวางเพลิงจนเสียหายยับเยิน ขณะที่บริเวณโดยรอบรัฐสภาพบรถยนต์ถูกเผาและซากโลหะบิดงอ กองทัพต้องนำรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์  ผู้ชุมนุมยังวางเพลิงโรงแรมฮิลตัน ซึ่งเป็นโรงแรมห้าดาวในกาฐมาณฑุซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว  เพราะเชื่อว่าลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วน

กองทัพประกาศจะใช้ “มาตรการเข้มงวด” ต่อการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความรุนแรง พร้อมย้ำว่าการก่อวินาศกรรม การปล้น การวางเพลิง และการทำร้ายร่างกายจะถูกลงโทษตามกฎหมาย ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุเปิดทำการอีกครั้งหลังปิดกว่า 24 ชั่วโมง

อดีตกษัตริย์ คยาเนนทรา ออกแถลงการณ์ประณามการใช้กำลังสลายผู้ชุมนุมว่าเป็นการละเมิดคุณค่าของสังคมเนปาล ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องให้ชาวเนปาลรักษาความสงบ ส่วนรัฐบาลจีนแสดงความหวังว่าสถานการณ์จะกลับสู่เสถียรภาพโดยเร็ว