'อิสราเอล' ใช้กำลังทางอากาศถล่มกาตาร์ หวังสังหารผู้นำ 'ฮามาส'

อิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายสังหารผู้นำการเมืองของกลุ่มฮามาส การปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และถูกสหรัฐประเมินว่าเป็นการโจมตีฝ่ายเดียว ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอล

 

แม้อิสราเอลยืนยันว่าเป็นการโจมตีที่ชอบธรรม แต่ทางกาตาร์กลับประณามว่าเป็นการ “ก่อการร้ายโดยรัฐ” พร้อมทั้งเตือนว่าการโจมตีครั้งนี้อาจบ่อนทำลายกระบวนการเจรจาสันติภาพที่กาตาร์กำลังทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างฮามาสและอิสราเอล นายกรัฐมนตรีชีค มูฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี ของกาตาร์ ระบุว่าเป็นการกระทำที่ทรยศและไม่อาจยอมรับได้

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงว่า แม้การจัดการกับฮามาสเป็นสิ่งที่เห็นว่าเหมาะสม แต่การโจมตีภายในกาตาร์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของวอชิงตันและเป็นที่ตั้งฐานทัพอัล-อุเดด ถือเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ โดยยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ก่อประโยชน์ต่อเป้าหมายของสหรัฐฯ หรืออิสราเอล

 

ฮามาสเปิดเผยว่า สมาชิกอย่างน้อย 5 คนเสียชีวิตในเหตุโจมตี รวมถึงบุตรชายของนายคาลิล อัล-ฮายา ผู้นำฮามาสในกาซาที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศและเป็นหัวหน้าทีมเจรจาหยุดยิง ฮามาสระบุว่าอิสราเอลล้มเหลวในการพยายามลอบสังหารคณะผู้เจรจา

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากปีกทางทหารของฮามาส “กองพลอัลกัสซาม” อ้างความรับผิดชอบต่อการยิงโจมตีในกรุงเยรูซาเล็มเมื่อวันจันทร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และก่อนหน้านี้ยังมีทหารอิสราเอลเสียชีวิตในกาซาอีก 4 นาย

 

การโจมตีได้รับเสียงประณามอย่างกว้างขวาง ทั้งจากซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหภาพยุโรป รวมถึงสหประชาชาติ เลขาธิการอันโตนิโอ กูเตอร์เรส แถลงว่ากาตาร์ได้มีบทบาทเชิงบวกอย่างมากในการเจรจาหยุดยิงและการปล่อยตัวตัวประกันในกาซา สหภาพยุโรประบุว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอแสดงความกังวลอย่างรุนแรงต่อผลที่จะตามมา

 

ด้านสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนในการอนุมัติหรือประสานงานกับอิสราเอล แต่ได้รับการแจ้งเตือนเพียงไม่นานก่อนเกิดเหตุ ทำให้มีข้อกังวลว่าความพยายามของวอชิงตันในการผลักดันข้อตกลงสันติภาพที่ยืดเยื้อมากว่าสองปีอาจสะดุดลง

 

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวย้ำว่า “วันเวลาที่ผู้นำก่อการร้ายจะสามารถอยู่รอดอย่างปลอดภัยได้สิ้นสุดลงแล้ว” โดยระบุว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้เหตุโจมตีในเยรูซาเล็มและการสูญเสียทหารอิสราเอลในกาซา

 

การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่อิสราเอลใช้กำลังทหารตอบโต้ฮามาสและพันธมิตรในภูมิภาค หลังจากการโจมตีใหญ่โดยฮามาสเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิสราเอลและทหารกว่า 1,200 ราย พร้อมทั้งจับตัวประกันกว่า 250 คน