ตัวเลขแรงานต่ำกว่าคาดการณ์ กดดันตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนลบ

ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกับความหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายหลังตัวเลขการจ้างงานเดือนสิงหาคมออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า เศรษฐกิจสร้างงานเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 75,000 ตำแหน่ง สะท้อนภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลง

 

ดัชนีธนาคารใน S&P 500 ร่วงลงถึง 2.4% หนักที่สุดในบรรดากลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่หุ้น Broadcom พุ่งขึ้น 9.4% ช่วยพยุงตลาดจากแรงขาย หลังบริษัทเปิดเผยคำสั่งซื้อชิปด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์จากลูกค้ารายใหม่ และคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้

 

• ดาวโจนส์ ลดลง 220.43 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 45,400.86

 

• S&P 500 ลดลง 20.58 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 6,481.50

 

• แนสแด็ก ลดลง 7.31 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 21,700.39

 

ความเคลื่อนไหวในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

 

ราคาน้ำมันดิบ ปรับลดลงตามความกังวลว่าความต้องการพลังงานจะชะลอตัวจากเศรษฐกิจที่อ่อนแรง 

 

น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบล่วงหน้าปิดที่ 65.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.22% 

 

ขณะที่เวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.54%

 

ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับเกือบ 3,600 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ 

 

ทองสปอตเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ 3,596.55 ดอลลาร์/ออนซ์ และทำจุดสูงสุดระหว่างวันไว้ที่ 3,599.89 ดอลลาร์/ออนซ์ 

 

สัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมปิดเพิ่มขึ้น 1.3% ที่ 3,653.30 ดอลลาร์/ออนซ์