ตลาดหุ้นสหรัฐรีบาวด์ ขณะการเทขายพันธบัตรทำราคาทองนิวไฮ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยดัชนีแนสแด็กขยับเพิ่มขึ้น 1% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดบวกเช่นกัน หลังจากราคาหุ้นบริษัท Alphabet พุ่งแรงภายหลังศาลสหรัฐมีคำตัดสินไม่ให้มีการแยกบริษัทออกจากกัน และนักลงทุนยังคงมีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

ราคาหุ้น Alphabet ปรับตัวขึ้น 9.1% ภายหลังคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทแม่ของ Google ยังคงควบคุมเบราว์เซอร์ Chrome และระบบปฏิบัติการ Android ได้ต่อไป แม้จะมีข้อกำหนดห้ามทำสัญญาผูกขาดกับผู้ผลิตอุปกรณ์และนักพัฒนาเบราว์เซอร์ ขณะที่หุ้น Apple พุ่งขึ้น 3.8% หลังคำตัดสินยังคงรักษารายได้จากการจ่ายค่าตอบแทนของ Google ให้แก่ผู้ผลิต iPhone ไว้ได้

 

เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความเห็นตรงกันถึงความจำเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ย โดยนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟด ระบุว่าควรปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ขณะที่นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ย้ำว่าการลดดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ไม่ได้ระบุกรอบเวลาอย่างชัดเจน ปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์เกือบเป็นเอกฉันท์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันที่ 17 กันยายนนี้ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool

 

แม้ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่บรรยากาศยังถูกกดดันจากข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอเกินคาด รายงาน JOLTS ของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างในเดือนกรกฎาคมลดลง 176,000 ตำแหน่ง เหลือ 7.181 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 7.378 ล้านตำแหน่ง นักลงทุนยังจับตารายงานการจ้างงานประจำเดือนที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 24.58 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 45,271.23 จุด 

 

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 32.72 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 6,448.26 จุด 

 

ดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 218.10 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 21,497.73 จุด

 

ในตลาดพลังงาน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่า 2% ก่อนการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน OPEC+ ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณาเพิ่มเป้าหมายการผลิตในเดือนตุลาคม 

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.6 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.31% ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล 

 

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 1.68 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.56% ปิดที่ 63.91 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ขณะเดียวกัน ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 3,577 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเร่งหาสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการเทขายพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวที่เดิมถือเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ