posttoday

จีนส่งออกแร่หายากทะยานสูงสุดในรอบ 16 ปี สัญญาณทั่วโลกเร่งกักตุน

14 กรกฎาคม 2568

จีนส่งออก "แร่หายาก" ในเดือนมิถุนายน ทะยานสูงสุดในรอบ 16 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 สัญญาณผู้ซื้อทั่วโลกเร่งกักตุน

 

ข้อมูลศุลกากรจีนล่าสุดเผยว่า ยอดการส่งออกแร่หายากของจีนในเดือนมิถุนายนพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552

 

สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างหนักของผู้ซื้อทั่วโลกในการเร่งจัดหาและกักตุนวัตถุดิบสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งใช้ในการผลิตแม่เหล็กสมรรถนะสูงตามรายงานจาก Bloomberg

 

ภาคอุตสาหกรรมแร่หายากทั่วโลกกำลังเผชิญกับความปั่นป่วนอย่างหนักนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

หลังจากที่จีนซึ่งเป็นผู้ครองตลาดหลัก ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่ทวีความรุนแรงขึ้น 

 

มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานของ "แม่เหล็กถาวร" (Permanent Magnets) อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตัวเลขในส่วนนี้ยังไม่ถูกนับรวมอยู่ในข้อมูลศุลกากรที่เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันจันทร์

 

รายงานระบุว่า การส่งออกแร่หายากของจีน ทั้งในรูปแบบแร่ดิบและโลหะแปรรูป มีปริมาณสูงถึง 7,742 ตันในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 

 

 

ตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นนี้คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นการส่งมอบวัตถุดิบให้กับผู้ผลิตแม่เหล็กเพียงไม่กี่รายที่อยู่นอกประเทศจีน ซึ่งกำลังเผชิญกับคลื่นความต้องการที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังดิ้นรนกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน

 

มาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลจีนนั้นครอบคลุมแร่หายาก 7 ชนิดจากทั้งหมด 17 ชนิดในรูปแบบสินค้าโภคภัณฑ์ขั้นพื้นฐาน แต่ขยายขอบเขตไปถึงผลิตภัณฑ์แม่เหล็กที่มีส่วนผสมของแร่หายากเหล่านี้แม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม 

 

ปัจจุบัน จีนมีสัดส่วนการผลิตแม่เหล็กถาวรจากแร่หายากมากถึง 90% ของทั้งโลก โดยมีบริษัทจากญี่ปุ่นและเยอรมนีเป็นผู้ผลิตส่วนใหญ่ที่เหลือ

 

ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาข้อมูลการค้าชุดถัดไปซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะรวมถึงข้อมูลการส่งออกผลิตภัณฑ์แร่หายากทั้งหมดของจีนในเดือนมิถุนายน

 

ส่วนข้อมูลฉบับสมบูรณ์ซึ่งจำแนกตามประเภทสินค้าและรวมถึงตัวเลขการส่งออกแม่เหล็กโดยเฉพาะ จะมีรายงานออกมาในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025