กัมพูชายืนยันให้ไทยร่วมยุติข้อพิพาทชายแดนผ่านศาลโลก
รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ส่งจดหมายถึง รมว.ต่างประเทศของไทย ขอให้นำข้อพิพาทชายแดนขึ้นศาลโลก ขณะฮุนเซนย้ำการปรับกำลังทหารในพื้นที่ เกิดจากการตกลงร่วมกัน
ในจดหมายดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา นายปรัก สุคน ระบุว่า ข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และเป็นต้นเหตุของความตึงเครียดและความเข้าใจผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการหาทางออกที่ยั่งยืนและสันติวิธี พร้อมเสนอให้ยื่นเรื่องให้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)เป็นผู้ชี้ขาด
“ด้วยลักษณะที่ซับซ้อน รากฐานทางประวัติศาสตร์ และความอ่อนไหวของข้อพิพาทเหล่านี้ จึงเห็นได้ชัดว่าการเจรจาทวิภาคีเพียงลำพังอาจไม่เพียงพออีกต่อไป”
เขากล่าวว่าคำวินิจฉัยของ ICJ ซึ่งมีพื้นฐานบนกฎหมายระหว่างประเทศ จะให้ความยุติธรรม ความเป็นกลาง และความยั่งยืน อันจะช่วยชี้แจงเส้นเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง และเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือในภูมิภาค
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต ระบุว่า กัมพูชาจะเดินหน้านำกรณีเข้าสู่ ICJ เนื่องจากกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้ผลลัพธ์น้อย พร้อมยืนยันว่าพื้นที่พิพาทอื่นจะดำเนินการเจรจาภายใต้บันทึกความเข้าใจปี 2000
ด้านสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับกำลังทหารในพื้นที่พิพาทซึ่งเกิดจากความตกลงร่วมกันของผู้บัญชาการทั้งสองประเทศ เป็นก้าวสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะรุนแรง
“ประชาชนของทั้งสองประเทศไม่ต้องการเห็นสงคราม แต่ต้องการสันติภาพที่ยั่งยืน”
เขากล่าวว่าการเจรจาหาทางออกได้ดำเนินในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับรัฐบาลถึงระดับแนวหน้า พร้อมเรียกร้องให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะหาทางออกอย่างสันติ
ในอีกด้านหนึ่ง นักวิชาการอาวุโส นายพู โสธิรัก ที่ปรึกษาอาวุโสแห่งศูนย์ศึกษาภูมิภาคกัมพูชา แสดงความกังวลต่อความตึงเครียดในปัจจุบัน โดยชี้ว่ามีรากเหง้ามาจากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์และกระแสชาตินิยมที่รุนแรงในทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองภายในฝั่งไทยที่อาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น
“หากไม่มีมาตรการลดความตึงเครียด อาจนำไปสู่ความขัดแย้งเต็มรูปแบบได้”