“อีแจมยอง” ผู้นำพรรคเสรีนิยมชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้
อีแจมยอง ชนะเลือกตั้งผู้นำเกาหลีใต้ สะท้อนเสียงประชาชนไม่ยอมรับการประกาศ “กฎอัยการศึก” ของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล
อีแจมยอง ผู้นำพรรคเสรีนิยมของเกาหลีใต้ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นแบบฉุกเฉินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นครบ 6 เดือนพอดีหลังจากเขาเดินฝ่ากองกำลังทหารไปลงคะแนนเสียงคัดค้านคำสั่งกฎอัยการศึกที่อดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ประกาศใช้อย่างกะทันหัน
ผลคะแนนนับไปแล้วกว่า 99% พบว่าอีแจมยองได้คะแนน 49.3% เหนือกว่าคิมมุนซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน (PPP) ที่ได้ 41.3% ซึ่งสะท้อนกระแสต่อต้านการใช้อำนาจทหาร และการล้มเหลวของพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมที่ไม่สามารถแยกตัวออกจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้
วันพิพากษาทางการเมือง
ในการแถลงสั้น ๆ หลังทราบผล อีแจมยองกล่าวว่า “นี่คือวันที่ประชาชนได้ตัดสินอดีตด้วยเจตจำนงประชาธิปไตย ผมจะทำหน้าที่ประธานาธิบดีเพื่อรวมพลังชาติและพาประเทศเดินหน้าต่อไป” เขายังให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจและใช้การเจรจากับเกาหลีเหนือควบคู่กับมาตรการด้านความมั่นคง
วิกฤตการณ์ที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่ออดีตประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึกเมื่อ 3 ธันวาคม นำไปสู่ความโกลาหลภายในรัฐบาล โดยมีผู้นำชั่วคราวสลับหน้าถึง 3 คน และคดีความอาญาในข้อหากบฏหลายคดี
รัฐสภาภายใต้การนำของอี ได้ถอดถอนยุนในเวลาไม่นาน และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งในเดือนเมษายน ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งฉุกเฉินครั้งนี้
เสียงจากประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ถึง 80% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1997 สะท้อนความตื่นตัวและความไม่พอใจของสังคม
“ฉันอยู่ที่รัฐสภาวันที่ 3 ธันวา ตอนยุนประกาศกฎอัยการศึก และวันถอดถอนเขาวันที่ 14” ชเวมีจอง ครูวิทยาศาสตร์วัย 55 กล่าว “วันนี้อีแจมยองได้เป็นประธานาธิบดี ฉันหวังว่าเขาจะทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อกลุ่มผลประโยชน์”
ทิศทางใหม่ของประเทศ
พรรคประชาธิปไตยภายใต้การนำของอี เน้นนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ช่วยเหลือครอบครัวรายได้ปานกลางถึงต่ำ และส่งเสริมเทคโนโลยี ขณะที่คิมมุนซูเสนอแนวทางปลดล็อกธุรกิจจากข้อจำกัด
แม้อีจะแสดงท่าทีประนีประนอมต่อจีนและเกาหลีเหนือมากขึ้น เขาก็ยังยืนยันจะสานสัมพันธ์กับญี่ปุ่นต่อจากรัฐบาลชุดก่อน
ความท้าทายรออยู่เบื้องหน้า
อีแจมยองต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและความขัดแย้งภายในสังคมที่ลุกลามจากเหตุการณ์กฎอัยการศึก รวมถึงความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจะมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการรับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในเช้าวันพุธ


