ทรัมป์เฮ! ศาลอุทธรณ์อุ้มมาตรการภาษี ลุ้นผลยาวถึง 9 มิ.ย.
ทรัมป์ได้เฮ! ศาลอุทธรณ์ระงับคำสั่งยกเลิกภาษีชั่วคราว ให้ทำเนียบขาวมีหวังต่อสู้คดีต่อในศาลสูงสุด ท่ามกลางวิกฤตการค้าโลกที่ยังไม่คลี่คลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางได้มีคำสั่งให้ระงับการยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้สั่งการไว้ชั่วคราว
หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกภาษีดังกล่าวไปก่อนหน้า คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับทำเนียบขาวที่กำลังเผชิญกับข้อจำกัดใหม่ๆ ในความพยายามปรับปรุงนโยบายการค้าโลก
ด้านฝ่ายบริหารของทรัมป์แสดงความยินดีกับคำสั่งของศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการยืนยันความตั้งใจที่จะอุทธรณ์คำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศที่ออกมาเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีศุลกากรของทรัมป์
ภาษีทรัมป์ยังมีผลบังคับใช้ชั่วคราว
ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางได้สั่งระงับคำสั่งของศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไว้เป็นการชั่วคราว
เพื่อใช้เวลาพิจารณาคำร้องของรัฐบาลที่ต้องการให้ระงับคำตัดสินดังกล่าวเป็นเวลานานขึ้น
คำสั่งของศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นการระงับคำตัดสินชั่วคราวที่เรียกว่า "การระงับการตัดสินทางปกครอง" ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนล่าสุดในคดีที่มีผลต่อเสาหลักของวาระทางเศรษฐกิจของทรัมป์
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรและให้เวลารัฐบาล 10 วันในการยกเลิกการจัดเก็บภาษีดังกล่าว
คำสั่งใหม่นี้ไม่มีคำอธิบายใดๆ และก่อให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับชะตากรรมของภาษีศุลกากรของทรัมป์
กระทรวงยุติธรรมโต้คำตัดสิน
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมระบุว่าคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ส่งผลกระทบต่อการทูตของสหรัฐฯ
และละเมิดอำนาจพิเศษของทรัมป์ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมได้ขอให้ศาลอุทธรณ์กลางระงับคำตัดสินดังกล่าวไว้ก่อนที่สหรัฐฯ จะยื่นอุทธรณ์อย่างเป็นทางการ
ศาลอุทธรณ์กลางได้กำหนดตารางการพิจารณาคดีซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 9 มิถุนายน เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับคำร้องขอให้พักคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นเวลานานขึ้น
คำสั่งที่ไม่ได้ลงนามดังกล่าวออกโดยคณะผู้พิพากษา 11 คน ซึ่งล้วนได้รับการแต่งตั้งจากพรรคเดโมแครต ยกเว้น 3 คน
ศาลชั้นต้นชี้ทรัมป์ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้มีคำตัดสินที่สร้างความประหลาดใจ โดยคณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าตัดสินว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายฉุกเฉินปี 1977 มอบให้เขาในการขึ้นภาษีศุลกากรทั่วโลกและภาษีอื่นๆ ที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง
คำตัดสินของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นหนึ่งในสองคดีที่เกี่ยวข้องกัน โดยกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและรัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครตประมาณสิบรัฐได้ยื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลทรัมป์ได้ขอให้ศาลการค้าระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในแมนฮัตตันระงับคำสั่งของศาลไว้ก่อนระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
โดยโจทก์ถูกขอให้ยื่นคำแก้ต่างต่อคำร้องดังกล่าวภายในเวลา 12.00 น. ตามเวลาที่นิวยอร์กในวันศุกร์
สหรัฐฯ เร่งดำเนินการรักษามาตรการภาษี
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อพยายามรักษาการบังคับใช้ภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ เผชิญกับ "ภัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้" หากคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกระงับระหว่างการอุทธรณ์
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์กล่าวว่าจะขอให้ศาลฎีกาเข้ามาแทรกแซงโดยเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้ หากศาลชั้นล่างไม่ระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศทันที
วิลเลียม ทง อัยการสูงสุดของรัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี กล่าวว่าเขาเชื่อมั่นว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์จะถูกระงับในที่สุด
“การพักการดำเนินคดีชั่วคราวนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงเบื้องหลัง ทรัมป์สร้างสถานการณ์ฉุกเฉินปลอมๆ ขึ้นเพื่อก่อสงครามการค้าที่ไร้กฎหมายและไร้จุดหมาย”
“ภาษีศุลกากรของเขาก่อให้เกิดความโกลาหลและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น”
อย่างไรก็ตาม แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ให้ความเห็นว่า โดยโจมตีผู้พิพากษาว่า
“ใช้อำนาจตุลาการในทางที่ผิดอย่างหน้าด้านๆ”
“ศาลฎีกาต้องยุติเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของรัฐธรรมนูญและประเทศของเรา”


