อังกฤษจับมืออียู เปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ หลังเบร็กซิท
เกือบเก้าปีหลังจากการลงมติให้ออกจาก EU สหราชอาณาจักรบรรลุข้อตกลงหลายฉบับกับสหภาพยุโรป รวมถึงสนธิสัญญาด้านความมั่นคง ขณะกลุ่มต้านวิจารณ์อย่างหนัก
รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้บรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งถือเป็นการรีเซตความสัมพันธ์ด้านการค้าและความมั่นคงที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษถอนตัวออกจากอียูในปี 2016 หรือที่รู้จักกันว่า “เบร็กซิท”
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความปั่นป่วนของระเบียบโลกที่เปลี่ยนไปจากนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ประเทศต่างๆ ต้องทบทวนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจใหม่
ไฮไลต์ของข้อตกลง
• ข้อตกลงความมั่นคงและกลาโหม ที่เปิดทางให้อังกฤษมีส่วนร่วมในการจัดซื้อร่วมของอียู และเปิดโอกาสให้บริษัทอังกฤษอย่าง BAE, Rolls-Royce และ Babcock เข้าร่วมโครงการเสริมกำลังอาวุธมูลค่า 150,000 ล้านยูโร
• เปิดตลาดสินค้าเกษตร ลดขั้นตอนทางศุลกากร ซึ่งจะช่วยให้ราคาสินค้าอาหารในอังกฤษลดลง
• ข้อตกลงประมง ให้อังกฤษและอียูสามารถเข้าถึงน่านน้ำของกันและกันเป็นเวลา 12 ปี แลกกับการลดเอกสารและตรวจสอบชายแดน
• สิทธิพิเศษของพลเมือง โดยอังกฤษและอียูเตรียมเปิดโอกาสให้เยาวชนสามารถไปเรียนและทำงานข้ามประเทศได้ และอยู่ระหว่างหารือเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา Erasmus+
เดินหน้าฟื้นฟูสัมพันธ์ยุโรป
นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ กล่าวว่า “นี่คือยุคใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับยุโรป” โดยเขาเชื่อว่าการลดความยุ่งยากสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ส่งออกอังกฤษ จะทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์มากกว่าการถอยกลับไปสู่ยุคเบร็กซิท
ข้อตกลงนี้ยังช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน โดยอาจเพิ่ม GDP ได้ถึง 9 พันล้านปอนด์ภายในปี 2040
กระแสตีกลับจากกลุ่มเบร็กซิท
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ก็ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากพรรคอนุรักษนิยมและกลุ่มสายเบร็กซิท โดย ไนเจล ฟาราจ ผู้นำพรรค Reform UK เรียกดีลนี้ว่า “ความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป” และ “จุดจบของอุตสาหกรรมประมง” ขณะที่ สหพันธ์ชาวประมงสก็อตแลนด์ เรียกข้อตกลงว่า “ฝันร้าย”
สะท้อนภาพอนาคต
แม้จะมีเสียงคัดค้าน แต่ผลสำรวจพบว่าคนอังกฤษส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกเสียใจกับการออกจากอียู แม้ยังไม่ต้องการกลับเข้าสู่สมาชิกภาพโดยสมบูรณ์ ขณะที่การร่วมมือกับยุโรปเรื่องวิกฤตยูเครนและความมั่นคงโลก ก็ช่วยฟื้นความไว้วางใจระหว่างสองฝ่าย


