ข้อตกลงหยุดยิง อินเดีย-ปากีสถาน เปราะบาง ทั้งคู่ยังตึงเครียด
สถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด หลังข้อตกลงหยุดยิง อินเดียยัน “นักบินทุกนายกลับบ้านปลอดภัย” แม้ไม่ปฏิเสธความสูญเสียจากการปะทะกับปากีสถาน
กองทัพอากาศอินเดีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า “ความสูญเสียเป็นส่วนหนึ่งของการรบ” แต่ยืนยันว่า นักบินทุกนายกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย หลังเหตุปะทะทางอากาศกับปากีสถานในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเครื่องบินที่อาจสูญเสีย แต่ก่อนหน้านี้ ฝ่ายปากีสถานอ้างว่าสามารถยิงเครื่องบินอินเดียตกถึง 5 ลำ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันจากฝั่งอินเดีย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากแหล่งข่าวในแคว้นแคชเมียร์ของอินเดียว่า เกิดเหตุเครื่องบินรบอินเดียตกถึง 3 ลำ หลังจากอินเดียเปิดเผยว่าได้โจมตีเป้าหมาย “โครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย” ของปากีสถานถึง 9 จุดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ชาวบ้านชายแดนยังไม่กล้ากลับบ้าน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง
ขณะที่รัฐบาลอินเดียและปากีสถานพยายามยืนยันว่ามีการตกลงหยุดยิงแล้วตั้งแต่วันเสาร์ แต่ เสียงระเบิดที่ยังดังขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดน ทำให้ชาวบ้านที่อพยพออกไปยังลังเลที่จะกลับเข้าหมู่บ้านของตน
เมืองชายแดนอย่าง อัมริตสาร์และชัมมู ยังคงเงียบสงัดในวันอาทิตย์ ร้านค้าหลายแห่งปิดให้บริการ และประชาชนจำนวนมากเลือกจะอยู่ในบ้าน
เจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศยังคงแนะนำให้ประชาชน ชะลอการกลับสู่พื้นที่แนวหน้า จนกว่าสถานการณ์จะมีความชัดเจนมากกว่านี้
วิกฤตแคชเมียร์: ด่านทดสอบใหม่ของการทูตอินเดีย
แม้การหยุดยิงจะช่วยลดความร้อนแรงลงได้ชั่วคราว แต่นักวิเคราะห์มองว่า ความขัดแย้งในแคชเมียร์ ได้กลายเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของบทบาททางการทูตของอินเดียบนเวทีโลก
การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาเสนอจะเป็นคนกลางในการเจรจาเรื่องแคชเมียร์ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวที่อินเดียไม่ค่อยยินดีนัก เนื่องจาก อินเดียยืนกรานว่าแคชเมียร์คือดินแดนของตน และไม่เปิดให้มีการไกล่เกลี่ยจากบุคคลที่สาม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลปากีสถานกลับตอบรับข้อเสนอของทรัมป์อย่างเปิดเผย และขอบคุณสหรัฐฯ สำหรับบทบาทในการผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ: อินเดียได้อะไรจากการยิงขีปนาวุธ?
หลังการโจมตีทางอากาศเข้าไปในพื้นที่ปากีสถานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งอินเดียระบุว่าเป็นการตอบโต้เหตุวางระเบิดที่คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ อินเดียก็เผชิญกับคำถามภายในประเทศว่า การโจมตีนั้นบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์หรือไม่
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ซึ่งยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ ตั้งแต่เหตุความตึงเครียดเริ่มต้น ยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทั้งจากฝ่ายค้านและสังคม โดยเฉพาะหลังจากยอมตกลงหยุดยิงอย่างกะทันหัน
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ “เกิดขึ้นฉุกละหุก” และยังคงเปราะบางสูง ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ยังคงเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ


