สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษเป็นประเทศแรก แต่ยังคงภาษี 10%
ทรัมป์-สตาร์เมอร์ เปิดตัวข้อตกลงการค้าใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศแรกที่เจรจาสำเร็จ แม้ภาษี 10% ยังไม่ถูกยกเลิก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร แถลงเปิดตัวข้อตกลงการค้าทวิภาคีฉบับใหม่ ที่แม้จะช่วยขยายการเข้าถึงสินค้าเกษตรและลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากอังกฤษลงเหลือ 10% แต่ก็ยังคงอัตราภาษี 10% เดิมไว้ในหลายหมวดสินค้า
ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในแผนของทรัมป์ที่จะเจรจาลดภาษีนำเข้ากับหลายประเทศ หลังจากใช้มาตรการขึ้นภาษีเพื่อกดดันประเทศคู่ค้าและลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
“นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” ทรัมป์กล่าว พร้อมระบุว่าข้อตกลงนี้อาจเป็นต้นแบบให้กับข้อตกลงอื่นๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา และประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญภาษีที่สูงกว่านี้ในอนาคต
ไฮไลต์สำคัญของข้อตกลง
• รถยนต์: ลดภาษีนำเข้ารถยนต์อังกฤษจาก 27.5% เหลือ 10% สำหรับโควตา 100,000 คัน
• เหล็กและเอทานอล: ยกเลิกภาษีเหล็กอังกฤษ (จาก 25%) และเอทานอลสหรัฐฯ (จาก 19%)
• สินค้าเกษตร: อังกฤษได้รับโควตาเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ ปลอดภาษี 13,000 ตัน โดยไม่มีการลดมาตรฐานความปลอดภัยอาหารของอังกฤษ
• การบิน: เครื่องยนต์ Rolls-Royce จะเข้าตลาดสหรัฐฯ ปลอดภาษี ขณะที่สายการบินอังกฤษเตรียมสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์
• ภาษีดิจิทัล: อังกฤษยังคงเก็บภาษีดิจิทัล 2% ต่อไปตามเดิม
ปฏิกิริยาและผลกระทบ
แม้ทั้งสองผู้นำจะยกย่องข้อตกลงว่าเป็น “ก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์” แต่องค์กรธุรกิจอย่าง British-American Business กลับแสดงความผิดหวังที่ยังคงมีภาษี 10% สำหรับสินค้าหลายรายการ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับในแง่บวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมการบินพุ่งขึ้นกว่า 6% ขณะที่หุ้นของ Boeing และ Rolls-Royce ต่างเพิ่มขึ้นเกือบ 4% และ 3.5% ตามลำดับ
ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ ยังอบอุ่น สตาร์เมอร์ก็ยังต้องรักษาสมดุลทางการค้าเพื่อไม่ให้เสียดุลกับจีนหรือสหภาพยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษยังคงอ่อนแอ