UN วอนเร่งช่วยแผ่นดินไหวเมียนมา ก่อนมรสุม ยอดตายใกล้ 3,000 ราย

มาร์โคลูจิ คอร์ซี รักษาการผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมและผู้อยู่อาศัยของสหประชาชาติ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมียนมาว่า น้ำดื่ม สุขอนามัย อาหาร ที่พักพิง และยารักษาโรค ถือเป็นความต้องการที่สำคัญที่สุดหลังจากเกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางต่ออาคาร ถนน และสะพาน

 

สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทาทุกข์ ก่อนถึงฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึง ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้วิกฤตการณ์เลวร้ายนี้เลวร้ายลงอีก

 

สงครามกลางเมืองในเมียนมาร์ทำให้มีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 3 ล้านคนก่อนเกิดแผ่นดินไหว จูลี บิชอป ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำเมียนมาร์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงทันที อนุญาตให้เข้าถึงด้านมนุษยธรรม และรับรองว่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ปลอดภัย

 

กลุ่มช่วยเหลือในเมียนมาร์เตือนว่าเวลาในการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว

 

มิน ออง หล่าย ผู้นำทางทหารของเมียนมาร์ เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง 7.7 เมื่อวันศุกร์ เพิ่มขึ้นเป็น 2,719 ราย เมื่อนับถึงเช้าวันอังคาร และคาดว่าจะเกิน 3,000 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 4,521 ราย และสูญหาย 441 ราย

 

หน่วยงานของสหประชาชาติกล่าวว่าโรงพยาบาลมีผู้ป่วยล้นหลาม และความพยายามช่วยเหลือ ถูกขัดขวางจากความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานและสงครามกลางเมือง กลุ่มกบฏกล่าวหาว่ากองทัพยังโจมตีทางอากาศแม้หลังเกิดแผ่นดินไหว และเมื่อวันอังคาร กลุ่มพันธมิตรกบฏรายใหญ่ได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นครั้งล่าสุดที่ทำให้เกิดความเสียหายติดต่อกันในประเทศยากจนซึ่งมีประชากร 53 ล้านคนหลังรัฐประหารในปี 2564 ที่ทำให้กองทัพกลับมามีอำนาจอีกครั้ง