รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน

ความเคลื่อนไหวของไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องไม่ให้ส่งชาวอุยกูร์ที่รัฐบาลไทยควบคุมตัวมานานนับสิบปี พร้อมเตือนว่าพวกเขาเสี่ยงต่อการถูกทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย และ "อันตรายที่แก้ไขไม่ได้" หากถูกส่งกลับ

 

กลุ่มสิทธิมนุษยชนและรัฐบาลตะวันตกบางแห่งกล่าวหาว่าปักกิ่งใช้ความรุนแรงต่อชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ที่มีจำนวนประมาณ 10 ล้านคนในเขตซินเจียงทางตะวันตกของจีน ปักกิ่งปฏิเสธการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา

 

“เราขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่ไทยบังคับส่งชาวอุยกูร์อย่างน้อย 40 คนกลับจีน โดยที่พวกเขาขาดสิทธิในการดำเนินการตามกฎหมาย และที่ที่ชาวอุยกูร์ต้องเผชิญกับการประหัตประหาร การบังคับใช้แรงงาน และการทรมาน” รูบิโอ ระบุในแถลงการณ์

 

นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่าไทยเสี่ยง "ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ" ภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติและอนุสัญญาระดับโลกอื่นๆ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทย "ตรวจสอบอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่อง" ว่าทางการจีนปกป้องสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์

 

“เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศในประเทศที่ชาวอุยกูร์แสวงหาความคุ้มครองที่จะไม่บังคับส่งชาวอุยกูร์เชื้อสายกลับไปยังจีน” รูบิโอกล่าว

 

รูบิโอ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนชาวอุยกูร์อย่างแข็งขันเมื่อเขาดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ย้ำว่าการปฏิบัติของปักกิ่งต่อกลุ่มอุยกูร์นั้นเทียบเท่ากับ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" ซึ่งเป็นการกำหนดที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นครั้งแรกในช่วงไม่กี่ชั่วโมงของการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2021

 

ฝ่ายบริหารของไบเดนยังคงใช้ชื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สร้างความเดือดดาลให้กับปักกิ่ง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประเด็นดังกล่าวก็กลายเป็นประเด็นปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนมาตลอด

 

สถานทูตจีน ออกมาระบุว่าการส่งตัวกลับประเทศนั้น “ดำเนินการตามกฎหมายของจีนและไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และแนวปฏิบัติทั่วไป” และ “สิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่”

 

“เรายืนหยัดต่อต้านความพยายามที่จะใช้สิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้างในการแทรกแซงกิจการภายในของจีน และใช้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงเพื่อรบกวนความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายตามปกติระหว่างประเทศต่างๆ” หลิว เผิงหยู โฆษกสถานทูตกล่าวในการตอบกลับทางอีเมล

 

ความกังวลเกี่ยวกับการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนในไทยเพิ่มมากขึ้นในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี หลังจากรายงานของสื่อและรูปภาพเผยให้เห็นรถบรรทุกหลายคันที่มีหน้าต่างปิดด้วยเทปสีดำ ออกจากศูนย์ตรวจคนเข้าเมืองในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่คุมขังชาวอุยกูร์ 48 คน

 

ชาวอุยกูร์ 48 คนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม 300 คนที่หลบหนีออกจากจีนและถูกจับกุมในปี 2557 บางคนถูกส่งกลับจีนและคนอื่นๆ ไปยังตุรกี โดยส่วนที่เหลือถูกไทยควบคุมตัวมากว่า 10 ปี

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เวลา 04.48 น. เที่ยวบินของสายการบินไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ที่ไม่ได้กำหนดไว้ออกจากสนามบินดอนเมืองในเมืองหลวงของไทย เพื่อลงจอดที่เมืองคัชการ์ ในเขตซินเจียงของจีนในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา เครื่องมือติดตาม Flightradar24 เผย

 

รัฐมนตรีกลาโหมของไทยแถลงในเวลาต่อมาว่า ชาวอุยกูร์ถูกส่งกลับตามมาตรฐานสากล และจีนได้ให้คำมั่นกับไทยว่าชาวอุยกูร์จะถูกส่งกลับจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี