กบฏซีเรียคว่ำการปกครองของอัสซาด บุกยึดเมืองหลวงสำเร็จ

กองบัญชาการกองทัพซีเรียแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อวันอาทิตย์ว่า ระบอบการปกครองของอัสซาดสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในเวลาต่อมา พวกเขากำลังดำเนินการต่อสู้กับ “กลุ่มก่อการร้าย” ในเมืองชนบทของฮามา และฮอมส์ และเดราอา ต่อไป

 

อัสซาดซึ่งบดขยี้ผู้เห็นต่างทุกรูปแบบ ได้บินออกจากดามัสกัสไปยังจุดหมายปลายทางที่ยังไม่เปิดเผยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ในขณะที่กลุ่มกบฏกล่าวว่าพวกเขาเข้าไปในเมืองหลวงโดยไม่มีวี่แววว่าจะมีการเคลื่อนกำลังทหารเข้าเผชิญหน้า

 

“เราเฉลิมฉลองร่วมกับชาวซีเรียในข่าวการปล่อยตัวนักโทษของเราและปล่อยโซ่ตรวนของพวกเขา และประกาศการสิ้นสุดของยุคแห่งความอยุติธรรมในเรือนจำเซดนายา” กลุ่มกบฏกล่าว โดยอ้างถึงเรือนจำทหารขนาดใหญ่ในเขตชานเมืองดามัสกัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลซีเรีย ถูกคุมขังนับพันคน

 

ผู้คนหลายพันคนในรถยนต์และเดินเท้ารวมตัวกันที่จัตุรัสหลักในกรุงดามัสกัส โบกมือและตะโกนคำว่า "อิสรภาพ" จากการปกครองของตระกูลอัสซาดที่ปกครองมาครึ่งศตวรรษ 

 

การล่มสลายครั้งใหญ่นี้ถือเป็นข่าวใหญ่สำหรับตะวันออกกลาง ยุติการปกครองที่เข้มแข็งของตระกูลอัสซาดในซีเรีย และส่งผลกระทบรุนแรงต่อรัสเซียและอิหร่าน ซึ่งสูญเสียพันธมิตรสำคัญที่เป็นใจกลางของภูมิภาค

 

เหตุการณ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วทำให้ประเทศในอาหรับตกตะลึง และทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคระลอกใหม่

 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และทีมงานของเขากำลังจับตาดู "เหตุการณ์พิเศษในซีเรีย" และกำลังติดต่อกับพันธมิตรในภูมิภาค 

 

ในขณะที่แนวหน้าของสงครามกลางเมืองอันซับซ้อนในซีเรียสงบเงียบมานานหลายปี จากนั้นกลุ่มกบฏอิสลามิสต์ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในเครือของอัลกออิดะห์ก็เริ่มปฏิบัติการกะทันหัน ก่อให้เกิดความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับอัสซาด ผู้ยังสามารถยืนหยัดจากสงครามอันทรหดมานานหลายปีและการโดดเดี่ยวจากนานาชาติด้วยความช่วยเหลือของรัสเซีย อิหร่าน และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

 

ขณะที่ อิสราเอล ซึ่งทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอ่อนแอลงอย่างรุนแรง อาจจะยินดีกับการล่มสลายของอัสซาด อีกหนึ่งพันธมิตรที่สำคัญในภูมิภาคของอิหร่าน แต่แนวโน้มของกลุ่มอิสลามิสต์ที่ปกครองซีเรีย ก็จะทำให้เกิดความกังวลเช่นกัน

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงดามัสกัส กลุ่มกบฏประกาศว่าพวกเขาสามารถควบคุมเมืองสำคัญอย่างฮอมส์ได้อย่างสมบูรณ์หลังจากสู้รบเพียงวันเดียว 

 

ชาวเมืองฮอมส์หลายพันคนหลั่งไหลออกมาบนถนนหลังจากที่กองทัพถอนตัวออกจากใจกลางเมือง พร้อมเต้นรำและตะโกนว่า "อัสซาดจากไป ฮอมส์เป็นอิสระแล้ว" และ "ซีเรียจงเจริญและปราบบาชาร์ อัล-อัสซาด"

 

กลุ่มกบฏยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลอง และเยาวชนก็ฉีกโปสเตอร์ของประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งอำนาจควบคุมดินแดนของเขาพังทลายลงหลังกองทัพล่าถอยไป

 

การล่มสลายของฮอมส์ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของซีเรียและทางแยกทางหลวงสายสำคัญได้ โดยแยกดามัสกัสออกจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนิกายอะลาวีต์ของอัสซาด และที่ซึ่งพันธมิตรรัสเซียของเขามีฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศอยู่

 

กลุ่มกบฏปล่อยตัวผู้ต้องขังหลายพันคนออกจากเรือนจำในเมือง กองกำลังรักษาความปลอดภัยรีบเร่งหลังจากเผาเอกสาร

 

สงครามกลางเมืองของซีเรียซึ่งปะทุขึ้นในปี 2554 จากการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอัสซาด ซึ่งลากประเทศมหาอำนาจภายนอกเข้ามาพัวพัน ทำให้เกิดพื้นที่สำหรับกลุ่มติดอาวุธเพื่อวางแผนโจมตีทั่วโลก และทำให้มีผู้ลี้ภัยหลายล้านคนต้องหลบหนีไปยังรัฐใกล้เคียง