ผลประกอบการ Tesla ร่วง ทำหุ้นดิ่ง หลัง Musk จะลงทุนทุกอย่างยกเว้นรถ EV

Tesla ประกาศอัตรากำไรรายไตรมาสต่ำสุดในรอบห้าปีเมื่อวันอังคาร โดยกำไรต่อหุ้นต่ำกว่าการประมาณการเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกัน

นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่หุ้นของ Tesla ที่ลดลงในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 และทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Tesla เหลือเพียงไม่ถึง 7 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021

Tesla ยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่การประเมินมูลค่าของเทสลาขึ้นอยู่กับความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกำไรมหาศาลในอนาคต ซึ่งขับเคลื่อนโดยผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เปิดตัว เช่น โรบอตแท็กซี่และหุ่นยนต์ที่คาดว่าจะออกวางตลาดเร็วๆนี้

“ความกระตือรือร้นทั้งหมดของ Musk นอกจากเรื่องการจัดเก็บพลังงาน มีไว้เพื่อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีอยู่จริง” Jeff Osborne จาก TD Cowen กล่าว

ยอดการส่งมอบรถยนต์ EV ของ Tesla ลดลงเป็นเวลาสองไตรมาสติดต่อกัน และไม่ได้เปิดตัวโมเดลที่มีต้นทุนต่ำกว่าที่หลายๆ คนคาดหวัง ส่งผลให้ผู้ซื้อหันไปหาผู้ผลิต EV ที่เป็นคู่แข่งกัน ตัวอย่างเช่น BYD ของจีน ซึ่งกลายเป็นผู้นำด้านยอดขายมากกว่า Tesla ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024

Tesla ถูกบังคับให้ลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นเดิมๆ Musk กล่าวว่าคู่แข่ง "ได้ลดราคา EV ลงอย่างมาก ซึ่งทำให้ Tesla ลำบากขึ้นเล็กน้อย"

บริษัทกล่าวว่าโมเดลราคาถูกกว่าที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะส่งผลให้ต้นทุนลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็เลื่อนกิจกรรม robotaxi ไปเป็นเดือนตุลาคม

อย่างไรก็ตาม รถของ Tesla ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายครั้ง ในเดือนธันวาคม Tesla เรียกคืนรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคันจากปัญหาด้านความปลอดภัยที่เชื่อมโยงกับระบบอัตโนมัติ สองเดือนต่อมา บริษัทเรียกคืนรถยนต์อีกประมาณ 360,000 คัน เนื่องจากความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุซึ่งเชื่อมโยงกับระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภค

จากการคาดการณ์แนวโน้มยอดขายรถ EV ที่ชะลอตัวลง ประกอบกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากผู้ผลิตของจีน Tesla ที่ยังไม่มีรถรุ่นใหม่ออกมากระตุ้นตลาด ก็คงเผชิญปัญหาที่มากขึ้นในครึ่งปีหลัง