posttoday

อุบัติเหตุจากโทรศัพท์มือถือพุ่ง กลุ่มมิลเลนเนียลได้รับบาดเจ็บมากสุด

27 ธันวาคม 2566

วิจัยใหม่เผย ตัวเลขอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือพุ่ง โดยกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้มากที่สุด ตั้งแต่สะดุดล้มขณะส่งข้อความ ไปจนถึงรอยฟกช้ำ และแผลแตกบริเวณใบหน้าและศีรษะ

ตามการสำรวจโดยเว็บไซต์ Study Finds พบว่า กลุ่มคนที่เผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง มักใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือหลีกหนีความจริง จนส่งผลให้พวกเขาละเลยสภาพแวดล้อมรอบตัว ซึ่งหลังจากวิเคราะห์ข้อมูล 10 ปีที่เก็บรวบรวมโดยระบบการเฝ้าระวังการบาดเจ็บทางระบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National Electronic Injury Surveillance System) พบว่า อุบัติเหตุที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 20% ตั้งแต่ปี 2020 โดยกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี1981 - 1996) เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้มากที่สุด

นอกจากนี้ อุบัติเหตุจากโทรศัพท์มีสัดส่วนสูงที่สุดในบรรดาอุบัติเหตุจากเทคโนโลยีทั้งหมด และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขการบาดเจ็บจากเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น โดยอุบัติเหตุจากการพิมพ์ข้อความขณะเดินกลายเป็นสาเหตุการบาดเจ็บจากเทคโนโลยีที่พบมากในสหรัฐอเมริกา

นักวิจัยระบุว่า การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อส่งข้อความขณะเดินหรือทำกิจกรรมอื่นๆ สามารถนำไปสู่การบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น สะดุดล้ม ไปจนถึงการบาดเจ็บรุนแรงเช่น เกิดการฟกช้ำ และแผลแตกบริเวณใบหน้าและศีรษะได้ 

อย่างไรก็ตาม แม้อุบัติเหตุจากโทรศัพท์มือถือจะพุ่งสูง แต่โทรทัศน์ยังคงครองแชมป์สาเหตุอันดับหนึ่งของอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา โดยคิดเป็น 30% ของการบาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งตามรายงานพบว่า อาการที่พบได้บ่อยที่สุดคืออาการปวดหลังส่วนล่างและอาการเคล็ดจากการยกของหนัก

นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์และเครื่องเล่นเกมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ แม้จะไม่ใช่สาเหตุหลักก็ตาม แต่ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะอาการปวดบริเวณลำตัวส่วนบน เช่น หน้าอก หลัง และซี่โครง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องเล่นเกมเป็นเวลานาน และท่าทางการนั่งที่ไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ คาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนส่วนใหญ่ต้อง Work from home จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันจึงมากขึ้นทั้งในด้านการทำงานและเพื่อความบันเทิง