posttoday

รถยนต์สหรัฐฯ ประหยัดน้ำมันทำลายสถิติ เหตุยอดขายรถ EV พุ่ง

21 ธันวาคม 2566

รถใหม่ในสหรัฐฯ ทำลายสถิติประหยัดน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 เฉลี่ยอยู่ที่ 26 ไมล์ต่อแกลลอน (mpg) นับเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีสุดในรอบ 9 ปีจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่พุ่งสูง ขณะที่ Stellantis, GM, Ford ยังคงตามหลังคู่แข่ง

รถยนต์ในสหรัฐฯ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ดีขึ้น 0.6 ไมล์ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับปี 2021 ขณะที่สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินมีส่วนช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.2 ไมล์ต่อแกลลอนในปี 2022 และคาดการณ์ว่าอัตราประหยัดน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 26.9 ไมล์ต่อแกลลอนในปี 2023

ผู้บริหารสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) Michael Regan ระบุว่า แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการช่วยลดมลพิษทางอากาศ

รายงานดังกล่าวยังระบุว่า Tesla ได้ขายคาร์บอนเครดิตเพิ่มเติม ซึ่ง General Motors และ Mercedes-Benz ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 2 รายได้ซื้อเครดิตดังกล่าวไปในปี 2022 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านการปล่อยมลพิษ

อย่างไรก็ตาม Stellantis, GM, Ford ยังตามหลังคู่แข่งด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ส่วน Tesla เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด ตามมาด้วย Hyundai และ Honda

สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ชี้ว่า อัตราการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน และรถยนต์ที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2022 และคาดว่า อัตราการผลิตจะแตะ 12% ในปี 2023 นอกจากนี้ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้น มีส่วนช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ามีระยะขับขี่ที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันสามารถขับขี่ได้ไกลกว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า หรือสูงสุดที่ 490 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม Dave Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์อาวุโสจากองค์กร Union of Concerned Scientists (UCS) ให้ความเห็นว่า มลพิษจากรถยนต์เครื่องสันดาปแทบไม่ลดลงเลยตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ต่างชะลอการพัฒนาเทคโนโลยีลดมลพิษในรถที่ใช้น้ำมัน เพราะถือว่าเป็นยานยนต์ส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายและถูกใช้บนท้องถนน

ทั้งนี้  ในเดือนเมษายน สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ได้เสนอแผนเพื่อลดการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวดสำหรับรถยนต์ใหม่จนถึงปี 2032  ซึ่งจะลดค่าเฉลี่ยการปล่อยมลพิษลง 56% เมื่อเทียบกับข้อกำหนดปี 2026 โดยคาดว่าจะส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 67% ของรถยนต์ใหม่ทั้งหมดภายในปี 2032