posttoday

EU ยัน บริจาคเงินเข้ากองทุนชดเชยความเสียหายจาก Climate change

14 พฤศจิกายน 2566

สหภาพยุโรปยืนยันว่าจะสนับสนุนกองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหาย (Loss and Damage Finance Fund) เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change)

กองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหาย (Loss and Damage Finance Fund) จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ หรือ COP28 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.- 12 ธ.ค. ในกรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คณะกรรมาธิการยุโรปและประธาน COP28 กล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกพร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหาย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงความทะเยอทะยานระหว่างการประชุม COP28 ในครั้งนี้

นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปยังเล็งให้ทุนสนับสนุน เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ บรรลุคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกให้ได้สามเท่าภายในปี  2030

เรื่องเงินถือเป็นประเด็นใหญ่สุดในการเจรจาเรื่องสภาพภูมิอากาศประจำปีของสหประชาชาติ ซึ่งความเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปจะเป็นแนวทางที่ช่วยให้ข้อตกลงอื่นๆ ในการประชุม COP28 ดำเนินไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าประเทศต่างๆจะถกประเด็นเรื่องการหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และหาหนทางเพิ่มเติมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

Adnan Amin ซีอีโอของการประชุม  COP28 กล่าวว่า เป้าหมายหลักของการประชุมคือได้รับการสนับสนุนทางการเงินราว 300 ล้านบาท ซึ่งเขาคาดหวังว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในฐานะเจ้าภาพหลักของการประชุมจะให้การสนับสนุนด้านเงินทุนเช่นกัน

การเจรจาเรื่องสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว ประเทศต่างๆ ล้วนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรจัดตั้งกองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหายจากสภาพภูมิอากาศ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวได้รับการยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าของประเทศกำลังพัฒนา ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร้องขอความช่วยเหลือเพื่อรับมือกับผลกระทบมาเป็นระยะเวลาหลายปี

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีประเทศใดให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินเข้ากองทุนนี้ แม้บางประเทศจะออกตัวว่ามีความสนใจสนับสนุนก็ตาม

ทั้งนี้ แม้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มรายได้สูงที่ได้รับการยกเว้นว่าไม่ต้องบริจาคเงินให้กับกองทุน แต่ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้เพิ่มแรงกดดันว่าประเทศเจ้าภาพ COP 28 ควรให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่กองทุนดังกล่าว