posttoday

สหรัฐฯ ทุ่มงบ 2 พันล้านเหรียญ ปรับปรุงอาคารคาร์บอนต่ำ

07 พฤศจิกายน 2566

ฝ่ายบริหารของไบเดนเล็งลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์กับ 150 โครงการก่อสร้างใน 39 รัฐที่จะใช้วัสดุช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change)

สำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (General Services Administration – GSA) จะจัดซื้อวัสดุสำหรับการก่อสร้าง เช่น ยางมะตอย  คอนกรีต แก้ว และเหล็ก ที่มาจากกระบวนการผลิตซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำกว่าการผลิตทั่วไป เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม

John Podesta ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี Joe Biden กล่าวว่า "รัฐบาลสหรัฐฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมกลุ่มคอนกรีตและยางมะตอย ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนับเป็นการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้พบกับนวัตกรรมระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ในการลดการปล่อยคาร์บอน" 

John Podesta ได้ดูแลการดำเนินงานในกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ หรือ IRA ซึ่งจะจัดสรรเงินกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ให้กับสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (GSA) เพื่อลงทุนในการก่อสร้างอาคารเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งเขาระบุว่า การลงทุนดังกล่าวจะช่วยกำจัดก๊าซเรือนกระจก จากภาคส่วนที่ความสามารถในการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นไปได้ยากที่สุด

เงินดังกล่าวจะถูกจัดสรรสำหรับการก่อสร้างอาคารของรัฐบาลกลางและสำนักงานศาลยุติธรรม 25 ล้านดอลลาร์จาก 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงสถานที่ให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากขึ้น

ตามข้อมูลของ GSA ยางมะตอย คอนกรีต แก้ว และเหล็ก ถือเป็นวัสดุเพื่อการก่อสร้างที่มีคาร์บอนมากที่สุด โดยเมื่อคิดเป็นสัดส่วน วัสดุเหล่านี้มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตทั้งหมดในสหรัฐฯ

ฝ่ายบริหารของไบเดนมีเป้าหมายในการทำให้อาคารของรัฐบาลกลางบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2045 และปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050

ทางด้าน Chuck Schumer  ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภากล่าวในแถลงการณ์ว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดตลาดวัสดุคาร์บอนต่ำ ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมใช้ประโยชน์จากกฎหมาย IRA และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น

ทั้งนี้ อาคารอื่นๆ ที่ถูกเลือกในโครงการได้แก่ อาคารในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์, อาคารในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ,  อาคารในเมือง ซอลท์เลคซิตี้ รัฐยูทาห์ และอาคารในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย