อดีตนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 68 ปี
อดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันศุกร์ด้วยวัย 68 ปี เกือบ 7 เดือนหลังจากเกษียณจากการดำรงตำแหน่งนานร่วม 10 ปี
“สหายหลี่ เค่อเฉียง ขณะพักอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประสบภาวะหัวใจวายกะทันหันเมื่อวันที่ 26 ต.ค. และหลังจากพยายามช่วยเหลือล้มเหลว ก็เสียชีวิตในเซี่ยงไฮ้เมื่อเวลาเที่ยงคืนสิบนาทีของวันที่ 27 ต.ค.” สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐ รายงาน
โซเชียลมีเดียของจีน อยู่ในบรรยากาศความโศกเศร้าและความตกตะลึง โดยเว็บไซต์ของรัฐบาลบางแห่งกลายเป็นขาวดำเพื่อแสดงการไว้ทุกข์อย่างเป็นทางการ แพลตฟอร์มไมโครบล็อกของ Weibo ได้เปลี่ยนปุ่ม "ถูกใจ" ให้เป็นไอคอน "ไว้อาลัย" เป็นรูปดอกเบญจมาศ
หลี่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจีนในปี 2556 ควบคู่ไปกับการเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง และดำรงตำแหน่งมายาวนานถึง 10 ปี ก่อนที่จะประกาศวางมือ ลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อถูกมองว่าเป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ จึงถูกกีดกันจากแวดวงอำนาจของจีนในช่วงไม่กี่ปีมานี้
ตลอดการดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลี่มีแนวคิดสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบตลาดที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูปด้านผลิต หรือที่เรียกว่า “Likonomics” แต่ทั้งนี้ แนวคิดเศรษฐกิจดังกล่าวไม่เคยถูกนำมาใช้จริง
หลี่ เพิ่งร่วมพิธีวางพวงมาลาในเดือนสิงหาคม 2022 ที่รูปปั้นของเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน โดยกล่าวว่า "การปฏิรูปและการเปิดกว้างจะไม่หยุดลง แม่น้ำแยงซีและแม่น้ำเหลืองจะไม่ย้อนกลับ"
คลิปวิดีโอสุนทรพจน์ดังกล่าว ซึ่งถูกแชร์อย่างรวดเร็ว แต่ต่อมาถูกเซ็นเซอร์จากโซเชียลมีเดียของจีน เพราะถูกมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของสี จิ้นผิง
หลี่เกิดในมณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ยากจนซึ่งบิดาของเขาเป็นข้าราชการ และเป็นที่ซึ่งเขาถูกส่งไปทำงานในทุ่งนาในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม
ขณะที่ศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง หลี่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษในระดับดี และยึดมั่นอุดมคติและแนวทางทางการเมืองของทศวรรษแห่งการปฏิรูปภายใต้เติ้ง เสี่ยวผิง
หลังจากสำเร็จการศึกษา หลี่ได้เข้าร่วมสันนิบาตเยาวชนของพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านกฎหมาย และระดับปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์
มีประสบการณ์ทางการเมืองในฐานะผู้นำมณฑลในเหอหนาน นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของเหลียวหนิง ซึ่งเป็นมณฑลที่สร้างตัวเองใหม่ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ก่อนจะก้าวสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดคนหนึ่งของจีน