ซาอุดิอาระเบียมั่นใจน้ำมันยังสำคัญในตลาดพลังงานโลก

เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การเข้าซื้อกิจการจากคู่แข่งรายเล็กของบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ เอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า ไฮโดรคาร์บอน "ยังคงอยู่ต่อไป"

“เอ็กซอน เชฟรอนไม่ได้ซื้อเพราะพวกเขาต้องการมีทรัพย์สินที่มีปีญหา” เขากล่าวในการประชุม Future Investment Initiative (FII) ประจำปีที่สำคัญของริยาด พร้อมเสริมว่าการเข้าซื้อกิจการทั้งสองครั้ง “ไม่อาจเกิดขึ้นในเวลาที่ดีกว่านี้ได้”

เชฟรอน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่าจะซื้อ Hess ด้วยข้อตกลงมูลค่า 53 พันล้านดอลลาร์ เพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากบริษัท Exxon Mobil ผู้ผลิตรายใหญ่ของสหรัฐฯ กล่าวว่าจะซื้อ Pioneer Natural Resources มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 59.5 พันล้านดอลลาร์

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการตำหนิจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เห็นพวกเขาแสดงทีท่าเหมือนไม่สนใจเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ

เจ้าชายอับดุลอาซิซกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงพลังงาน จะยังคงต้องใช้ไฮโดรคาร์บอนรวมถึงปิโตรเคมีด้วย

สัปดาห์นี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า ความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2573 เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากขึ้นบนท้องถนน และเศรษฐกิจของจีนเติบโตช้าลงและเปลี่ยนไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้น

มุมมองของ IEA ขัดแย้งกับมุมมองของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ซึ่งมองว่าความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเวลานานหลังจากปี 2030 และยังมีการลงทุนในภาคน้ำมันใหม่หลายโครงการ

ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังลงทุนอย่างหนักในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เป็น 13 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2570

เจ้าชายอับดุลอาซิซกล่าวเสริมว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ลงทุนในการเพิ่มกำลังการผลิต หากคิดว่าจะไม่มีความต้องการการผลิตเพิ่มเติม