หลายหน่วยงานในสหรัฐเสี่ยง shut down 1 ตค. หลังสภาไม่ผ่านงบประมาณครั้งที่ 3
ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา Kevin McCarthy พยายามดันแผนจัดสรรงบอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดตัวของรัฐบาลในวันที่ 30 กันยายน หลังรีพับลิกันขวางการลงคะแนนเสียงกับการใช้งบกลาโหมเป็นครั้งที่สาม
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 เสียง เพื่อคัดค้านร่างจัดสรรงบกลาโหมมูลค่ากว่า 886,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นบททดสอบใหญ่ของ Kevin McCarthy เนื่องจากอาจเกิดเหตุ Government shutdown หรือหน่วยงานรัฐอาจต้องปิดลง หากสภาไม่สามารถผ่านงบประมาณก่อน 30 กันยายน
หากเกิดเหตุ Government shutdown ขึ้นจริง เหตุการณ์นี้จะเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี โดยหน่วยงานรัฐบาลกลางจะเริ่มปิดตัวลงในวันที่ 1 ตุลาคม หากสภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติร่างกฎหมายกลาโหมรวมถึงมาตรการต่อเนื่องในระยะสั้น หรือที่เรียกว่า CR ได้
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่พอจะเป็นไปได้คือได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันเท่านั้น เนื่องจากคุมเสียงข้างมากของสภาผู้เเทนราษฎร ด้วยจำนวนเก้าอี้ 221 ต่อ 212 ขณะที่ ฝั่งวุฒิสภามีเสียงข้างมากจากพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีอำนาจในการลงนามในกฎหมาย
Chuck Schumer วุฒิสภาระดับสูงของพรรคเดโมแครตกล่าวว่า “แทนที่จะหลีกเลี่ยงการปิดตัวของรัฐบาล ประธานสภา McCarthy กลับเสียเวลาไปกับกลุ่มนักการเมืองหัวรุนแรง จนทำให้ร่างกฎหมายนี้ดันออกมาไม่ได้สักที”
ขณะที่ทางฝั่ง Donald Trump ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 เรียกร้องให้สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสลดงบประมาณของรัฐบาลโจ ไบเดนลงทุกด้าน
ทั้งนี้ สถานการณ์ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในสภา ส่งผลให้บริษัทวิเคราะห์การเงินลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ลง จากเดิมอยู่ที่ AAA มาอยู่ที่ AA+ ซึ่งใช้เกณฑ์ที่อ้างอิงจากความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล และความเสี่ยงด้านการลงคะแนนร่างงบประมาณ


