ชัยชนะของอินเดีย เมื่อยานอวกาศ จันทรายาน 3 ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ

“ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ มหัศจรรย์อย่างยิ่ง นี่คือเสียงร้องแห่งชัยชนะของอินเดียยุคใหม่” นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ซึ่งโบกธงชาติอินเดียขณะเฝ้าดูการลงจอดจากแอฟริกาใต้ซึ่งเขากำลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งกล่าว ที่ร่วมกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

“อินเดียได้อยู่บนดวงจันทร์แล้ว” เอส. โสมานาถ หัวหน้าองค์การวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย (ISRO) กล่าวขณะยานอวกาศจันทรายาน-3 ลงจอด ส่งผลให้อินเดียเป็นประเทศที่ 4 ที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดยานอวกาศบนดวงจันทร์ ต่อจากสหรัฐอเมริกา จีน และ อดีตสหภาพโซเวียต

ISRO แชร์ภาพจากยานอวกาศที่แสดงพื้นผิวดวงจันทร์ ขาและเงาของยานขณะลงจอด

ภูมิประเทศที่ขรุขระทำให้การลงจอดที่ขั้วโลกใต้ทำได้ยาก แต่น้ำแข็งของภูมิภาคนี้อาจเป็นแหล่งเชื้อเพลิง ออกซิเจน และน้ำดื่มสำหรับภารกิจอวกาศในอนาคต

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียแสดงความยินดีกับอินเดียด้วยข้อความถึงโมดีที่เผยแพร่บนเว็บไซต์เครมลิน

“นี่เป็นก้าวสำคัญในการสำรวจอวกาศ และแน่นอนว่าเป็นข้อพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าที่น่าประทับใจของอินเดียในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” 

ผู้บริหาร NASA บิล เนลสัน แสดงความยินดีกับ ISRO ในการลงจอด

“และขอแสดงความยินดีกับอินเดียที่เป็นประเทศที่ 4 ที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดยานอวกาศบนดวงจันทร์อย่างนุ่มนวล” เขากล่าวใน X ซึ่งเดิมคือ Twitter "เราดีใจที่ได้เป็นพันธมิตรของคุณในภารกิจนี้!"

ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ ของยานจันทรา3 เป็นความพยายามครั้งที่สองของอินเดียในการลงจอดยานอวกาศบนดวงจันทร์ และเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากภารกิจของยานลูนา-25 ของรัสเซียล้มเหลว ผู้คนทั่วประเทศจึงจับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์และกล่าวคำอธิษฐานขณะที่ยานอวกาศเข้าใกล้พื้นผิว หลังจากในปี 2019 ภารกิจ จันทรายาน 2 ของ ISRO สามารถส่งยานอวกาศขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ แต่การลงจอดบนดวงจันทร์กลับล้มเหลว

คาดว่า จันทรายาน 3 จะยังคงทำงานได้เป็นเวลาสองสัปดาห์ โดยจะทำการทดลองหลายชุด รวมถึงการวิเคราะห์สเปกโตรมิเตอร์ขององค์ประกอบแร่ของพื้นผิวดวงจันทร์

โสมานาถกล่าวว่า อินเดียกำลังวางแผนที่จะเริ่มภารกิจในเดือนกันยายนเพื่อศึกษาดวงอาทิตย์  นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนการขึ้นสู่อวกาศของมนุษย์ด้วย และแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศวันที่อย่างเป็นทางการ แต่มีแนวโน้มว่าการเตรียมการจะพร้อมภายในปี 2567

การลงจอดดังกล่าวช่วยเพิ่มชื่อเสียงของอินเดียในด้านวิศวกรรมอวกาศที่แข่งขันด้านต้นทุนได้  จันทรายาน 3 ใช้งบประมาณเพียงประมาณ 6.15 พันล้านรูปี (74 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณไม่ถึง 2,600 ล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าต้นทุนในการผลิตภาพยนตร์ระทึกขวัญอวกาศเรื่อง "Gravity" ของฮอลลีวูดปี 2013

คาร์ลา ฟิโลติโก หุ้นส่วนและกรรมการผู้จัดการของบริษัทสเปซเทค กล่าวว่า “การลงจอดที่ขั้วโลกใต้สำเร็จ จะทำให้อินเดียสามารถสำรวจได้ว่ามีน้ำแข็งบนดวงจันทร์หรือไม่ และนี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับธรณีวิทยาของดวงจันทร์” 

ความคาดหวังก่อนการลงจอดนั้นร้อนแรงทั่วประเทศอินเดีย โดยมีพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์อินเดียและช่องข่าวต่างๆที่นับถอยหลังสู่การลงจอด

มีการสวดมนต์ในสถานที่สักการะทั่วประเทศ และเด็กนักเรียนโบกธงไตรรงค์ของอินเดียขณะรอการแพร่ภาพสดของการลงจอด

เด็กๆ รวมตัวกันที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาซึ่งชาวฮินดูถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสวดภาวนาขอให้ลงจอดอย่างปลอดภัย และมัสยิดต่างๆ ก็สวดมนต์

ในที่สุด นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ และโอบกอดกันในขณะที่ยานอวกาศลงจอด และผู้คนทั่วอินเดียก็ออกมาเฉลิมฉลอง พร้อมจุดพลุและเต้นรำไปตามท้องถนน