ไบเดนปัดสหรัฐฯ และพันธมิตรมีเอี่ยวกบฏทหารรับจ้างรัสเซีย

ไบเดนนำเสนอการประเมินอย่างระมัดระวังต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความตึงเครียดกับรัสเซียที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ในขณะที่เขาเสนอการสนับสนุนอย่างมั่นคงจากตะวันตกสำหรับยูเครนในการพยายามต่อสู้กับรัสเซีย

“เราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” ไบเดนกล่าวในการแสดงความคิดเห็นแรกของเขาเกี่ยวกับการลุกฮือของทหารรับจ้างวากเนอร์ที่ยุติลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว จอห์น เคอร์บี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อความของไบเดนที่ระบุว่าตะวันตกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกส่งตรงไปยังรัสเซียผ่านช่องทางการทูตต่างๆ  แต่เขาไม่ได้แจ้งว่ารัสเซียตอบสนองอย่างไร

ที่งานเลี้ยงในทำเนียบขาว ไบเดนกล่าวว่าเขาได้สั่งให้ทีมงานความมั่นคงแห่งชาติอัปเดตสถานการณ์ "ชั่วโมงต่อชั่วโมง" และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ขณะที่สำนักข่าว TASS อ้างคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เก ลาฟรอฟ เมื่อวันจันทร์ว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซียกำลังสืบสวนว่าหน่วยงานสายลับของชาติตะวันตกมีบทบาทในการก่อการจลาจลครั้งนี้หรือไม่ 

แหล่งข่าวระบุว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐ "ทราบดี" ว่าการก่อจลาจลที่นำโดยเยฟเจนี พริโกซิน หัวหน้าพรรควากเนอร์ "มีความเป็นไปได้" และแถลงสรุปต่อรัฐสภาสหรัฐ ก่อนที่เหตุการณ์จะเริ่มขึ้น 

คณะบริหารของไบเดน ไม่ได้กล่าวถึงการรับรู้ข้อมูลในวอชิงตันว่าจะการจลาจล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียอ่อนแอลงจากการทำสงครามกับยูเครนเป็นเวลา 16 เดือน

แมทท์ มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่าผลที่ตามมาของสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่า "เป็นเรื่องใหม่อย่างแน่นอนที่ได้เห็นความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีปูตินถูกท้าทายโดยตรง เป็นเรื่องใหม่ที่จะได้เห็นผู้นำกลุ่มวากเนอร์ ตั้งข้อสงสัยโดยตรงถึงเหตุผลของสงครามครั้งนี้ และประณามว่าสงครามดำเนินไปบนพื้นฐานของความเท็จเป็นหลัก"

ไบเดน กล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับพันธมิตรหลักในการประชุมทางวิดีโอเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจตรงกันและประสานงานกันในการตอบสนองกับสถานการณ์

“พวกเขาเห็นด้วยกับผมว่าเราต้องทำให้แน่ใจว่าเราไม่แก้ตัวให้ปูติน ในการหันมาโทษตะวันตกและโทษนาโต้” 

ไบเดนกล่าวว่าเขาและทีมของเขาจะประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ต่อไป

“มันยังเร็วเกินไปที่จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้” 

ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์เมื่อเย็นวันจันทร์ โดยกล่าวว่าเขาจงใจปล่อยให้การก่อการกบฏตลอด 24 ชั่วโมงในวันเสาร์โดยกลุ่มวากเนอร์ดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ทำเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด และเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในชาติ

นักรบของวากเนอร์ ซึ่งนำโดยเยฟเจนี พริโกซิน ประสบความสำเร็จในการควบคุมเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน และเคลื่อนขบวนรบติดอาวุธเข้าไปในรัสเซียห่างจากกรุงมอสโกในระยะ 200 กม. (125 ไมล์) เท่านั้น

“ตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์ คำสั่งโดยตรงของผมดำเนินไปตามขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดอย่างรุนแรง” 

“เหนือสิ่งอื่นใด เวลาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการให้โอกาสผู้ที่เคยทำผิดพลาดได้สำนึกตัว ตระหนักว่าการกระทำของพวกเขาถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นจากสังคม และการกระทำที่พวกเขามีส่วนร่วมนั้นน่าเศร้าและผลที่ตามมาสร้างความเสียหาย สำหรับรัสเซียและรัฐของเรา”

ปูตินขอบคุณนักรบและผู้บัญชาการของวากเนอร์ที่ยืนหยัดจากเหตุกบฏเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่เขาเรียกว่า "การนองเลือดระหว่างพี่น้อง" และกล่าวว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของวากเนอร์เป็นผู้รักชาติ

เขากล่าวว่าผู้ที่ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับกองทัพภายใต้คำสั่งของกระทรวงกลาโหมอาจย้ายไปเบลารุสหรือไม่ก็กลับไปหาครอบครัวของพวกเขา

ทั้งนี้ ปูติน ไม่ได้กล่าวถึง เยฟเจนี พริโกซิน ผู้นำของวากเนอร์ รวมถึงยังไม่แสดงท่าทีว่าจะมีการลงโทษหรือเปลี่ยนตัวผู้นำกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงแต่อย่างใด