เกาหลีใต้เร่งหนุนภาคการผลิตชิปท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ Yoon ได้พบกับผู้นำในอุตสาหกรรม สมาชิกสภานิติบัญญัติ และรัฐมนตรีประมาณ 60 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการรักษาความเป็นผู้นำด้านชิปหน่วยความจำของเกาหลีใต้ ส่งเสริมการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ และความปลอดภัยของวัสดุ อุปกรณ์ และแรงงาน

“ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ได้กลายเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทต่างๆ ในการจัดการในปัจจุบัน บริษัทเพียงลำพังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศควรจัดการด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือและสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน เช่น สหรัฐอเมริกา” ยุน กล่าวต่อที่ประชุม

กระทรวงอุตสาหกรรมระบุในแถลงการณ์ว่ารัฐบาลวางแผนที่จะช่วยขยายการวิจัยและพัฒนา สนับสนุนผู้เล่นรายเล็ก เสริมการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับเทคโนโลยีชิป และจัดตั้งศูนย์ทดสอบชิป

เกาหลีใต้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์มาโดยตลอด

ทั้งนี้ ผู้ผลิตชิปอย่าง Samsung Electronics Co Ltd และ SK Hynix Inc ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประมาณ 40% ของการส่งออกชิปของเกาหลีใต้ไปที่จีน

เมื่อวอชิงตันประกาศข้อจำกัดในการส่งออกเครื่องมือทำชิปไปยังจีนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว รัฐบาลได้ผ่อนผันให้ Samsung และ SK Hynix ซึ่งมีโรงงานผลิตในจีนเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อให้พวกเขาสามารถนำเข้าเครื่องมือโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต แต่สิทธิ์นั้นจะถูกขยายออกไปหรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า บริษัทไม่คาดว่าอุปทานจะหยุดชะงักในระยะยาวจากข้อพิพาทเรื่องชิประหว่างจีนกับสหรัฐฯ เนื่องจากเกาหลีใต้จะกลายเป็นพื้นที่หลักสำหรับการลงทุนและการอัปเกรดเทคโนโลยีของ Samsung และ SK Hynix

"อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นหากข้อพิพาทบานปลายในลักษณะที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนมากขึ้นต่อต้นทุนและความพร้อมใช้งานของส่วนประกอบในห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงคำตัดสินหรือการแบนที่รุนแรงยิ่งขึ้นจากทั้งสหรัฐฯ หรือจีน" Fitch Ratings กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า

Fitch ประเมินว่า จีนคิดเป็น 40% ของกำลังการผลิตชิปหน่วยความจำ NAND ของ Samsung และ 40% ถึง 50% ของกำลังการผลิต DRAM ของ SK Hynix และ 20% ของกำลังการผลิต NAND