posttoday

พายุไซโคลน Mocha พัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์

15 พฤษภาคม 2566

พายุไซโคลนกำลังแรงพัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์ หลังจากทวีความรุนแรงขึ้นจนเทียบเท่ากับพายุระดับ 5 อิทธิพลของพายุไซโคลน Mocha ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่แผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชายฝั่งทะเลและมีระดับพื้นดินต่ำ

ที่พักไม้ไผ่กว่า 1,300 แห่งใน Cox's Bazar ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความเสียหาย

มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนในเมียนมาร์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานดินถล่มและน้ำท่วมในหลายพื้นที่

พายุไซโคลน Mocha พัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์

ขณะที่ทางการบังคลาเทศระบุว่า ประชาชนมากกว่า 500,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

โดยหลายคนต้องเดินทางมาศูนย์พักพิงด้วยรถลากและเดินเท้า พวกเขานำปศุสัตว์ของพวกเขา ทั้งวัว ไก่ แพะ รวมทั้งเสื่อมาปูด้วย

พายุไซโคลน Mocha พัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์

ขณะที่ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงนี้ ยังส่งผลกระทบหนักต่อค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่อยู่ใกล้เคียง

รัฐบาลบังกลาเทศไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาออกจากค่าย หรือห้ามสร้างสิ่งก่อสร้างถาวร

พายุไซโคลน Mocha พัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์

เมื่อพายุไซโคลนพัดถล่ม พวกเขาก็หลบอยู่ในเพิงไม้ไผ่ที่บอบบางซึ่งมีหลังคาผ้าใบกันน้ำ บางส่วนถูกย้ายไปอยู่ในที่พักพิงของชุมชนภายในค่าย ซึ่งให้ความคุ้มครองมากกว่าเล็กน้อย

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าที่พักพิงมากกว่า 1,300 แห่งได้รับความเสียหายจากแรงลม เช่นเดียวกับมัสยิด 16 แห่งและศูนย์การเรียนรู้ ต้นไม้หักโค่นในค่าย ผู้ลี้ภัยจำนวนมากต้องสูญเสียบ้านพักและต้องอยู่ท่ามกลางสายฝนตลอดคืน

พายุไซโคลน Mocha พัดถล่มชายฝั่งบังกลาเทศและเมียนมาร์

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศกล่าวว่าความเร็วลมสูงสุด ในระยะ 45 ไมล์ จากศูนย์กลางของพายุไซโคลนอยู่ที่ประมาณ 195 กม./ชม. (120 ไมล์/ชม.) โดยมีลมกระโชกแรงและพายุอาจทวีความเร็วลมได้ถึง  215 กม./ชม.

เพื่อเตรียมพร้อมรับการมาถึงของพายุ สนามบินใกล้เคียงถูกปิด ชาวประมงได้รับคำสั่งให้หยุดออกเรือ และรัฐบาลได้ตั้งที่พักพิง 1,500 แห่ง ขณะที่ผู้คนจากพื้นที่เสี่ยงถูกย้ายไปยังจุดที่ปลอดภัย