posttoday

โควิดทำพิษเด็กทั่วโลก พลาดรับวัคซีนกว่า 67 ล้านคน

23 เมษายน 2566

UNICEF ระบุว่า ช่วงปี 2019- 2021 มีเด็กประมาณ 67 ล้านคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนประจำปีจากมาตรการล็อกดาวน์และการหยุดชะงักด้านการรักษาพยาบาลที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กเหล่านั้นเสี่ยงต่อโรคหัดและโปลิโอ

UNICEF เตือนในรายงาน State of the World’s Children ประจำปีว่า “กว่าทศวรรษแห่งความยากลำบากที่เราพยายามสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังลงหมดแล้ว เรากำลังย้อนกลับไปสู่เส้นทางเดิมอันท้าทาย”

ความครอบคลุมของวัคซีนในเด็กลดลงใน 112 ประเทศ ขณะที่เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ได้รับวัคซีนทั่วโลกลดลงร้อยละ 5 จนเหลือเพียงร้อยละ 81 ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2008 โดยทวีปแอฟริกาและเอเชียใต้ถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

Brian Keeley หัวหน้ากองบรรณาธิการรายงานกล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า “วัคซีนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว ซึ่งการลดลงของอัตราการฉีดวัคซีนถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล”

โควิดทำพิษเด็กทั่วโลก พลาดรับวัคซีนกว่า 67 ล้านคน

การลดลงของอัตราการฉีดวัคซีนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตอื่นร่วมด้วย ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศต่างๆ ตอบสนองต่อความต้องการวัคซีนได้ยากขึ้น

ก่อนที่จะมีวัคซีนป้องกันโรคหัด เดิมโรคนี้คร่าชีวิตผู้คนราว 2.6 ล้านคนต่อปีซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเด็ก จนกระทั่งปี 1963 ที่มีการนำวัคซีนป้องกันโรคหัดเข้ามาใช้ จำนวนการเสียชีวิตก็ลดลงเหลือประมาณ 128,000 คนในปี 2021 แต่เมื่อความครอบคลุมของวัคซีนลดลงเหลือ 81 เปอร์เซ็นต์ในปีนั้น เทียบกับในปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 86 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโรคหัดก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2022

โควิดทำพิษเด็กทั่วโลก พลาดรับวัคซีนกว่า 67 ล้านคน

สัญญาณอันตราย

ตามรายงานล่าสุดจาก UNICEF ชี้ให้เห็นว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ความเชื่อมั่นในความสำคัญของการฉีดวัคซีนในเด็กเพื่อป้องกันโรคที่สามารถคร่าชีวิตมนุษย์ได้ อย่างโรคหัดหรือโรคอื่นๆในกลุ่มเดียวกันได้ลดลงทั่วโลก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็น "สัญญาณเตือนอันน่ากังวล”

Catherine Russell ผู้อำนวยการบริหารของUNICEFกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราจะให้ความตระหนักในความสำคัญของการฉีดวัคซีนประจำปีลดลงไปมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นคราวต่อไปเด็กจะต้องเสียชีวิตมากขึ้น จากโรคอื่นทั้งที่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้

จากรายงานชี้ให้เห็นว่าในบางประเทศเช่น ปาปัวนิวกินีและเกาหลีใต้ มุมมองต่อความสำคัญของวัคซีนสำหรับเด็กลดลงถึง 44% ในสหรัฐอเมริกาลดลง 13.6%  ขณะที่ในอินเดีย จีน และเม็กซิโก ความเชื่อมั่นของประชาชนอยู่ในระดับเดียวกันหรือเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายงานย้ำว่าความเชื่อมั่นในวัคซีนสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายและผลการสำรวจอาจไม่แสดงถึงแนวโน้มระยะยาว