posttoday

เวียดนามผ่อนคันเร่งจับมือสหรัฐฯ หวั่นกระทบสัมพันธ์จีน

24 มีนาคม 2566

ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจปักกิ่งและวอชิงตัน การผลักดันของสหรัฐฯ ให้ยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามในปีนี้กำลังเผชิญกับการต่อต้านในกรุงฮานอย โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นส่ิงที่น่ากังวลเพราะจีนอาจมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ตั้งตัวเป็นศัตรู

สหรัฐฯ หวังจะยกระดับความสัมพันธ์กับเสียดนามในปีนี้ เพื่อให้ตรงกับวันครบรอบ 10 ปีของความเป็นหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้านกับเวียดนามในเดือนกรกฎาคม

แม้ว่าสหรัฐฯจะเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม แต่ปัจจุบันฮานอยได้จัดอันดับให้สหรัฐฯเป็นหุ้นส่วนทางการทูตระดับสาม ขณะที่หุ้นส่วนทางการทูตระดับสูงสุดประกอบด้วยจีน รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้ ส่วนระดับที่รองลงมาได้แก่ประเทศในยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งสหรัฐฯต้องการขยับความสัมพันธ์ให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้

Florian Feyerabend ตัวแทนมูลนิธิ Konrad Adenauer ของเยอรมนีในเวียดนามกล่าวว่า การยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในปีนี้ไม่นับเป็นเรื่องจริงอีกต่อไป"

แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ แต่ตามการระบุของผู้เชี่ยวชาญที่อ้างถึงการหารือกับเจ้าหน้าที่เวียดนามระบุว่า ผู้นำของเวียดนามกำลังลังเลและเกรงว่าอาจถูกตอบโต้จากจีน 

Bich Tran ผู้ช่วยจากศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศของวอชิงตันกล่าวว่า “จากการแข่งขันระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความใกล้ชิดระหว่างจีนกับเวียดนาม ฮานอยอาจรู้สึกลังเลที่จะยกระดับความร่วมมือที่ครอบคลุมอย่างเป็นทางการกับวอชิงตัน”

ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามและเป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญสำหรับภาคการผลิต

เมื่อถูกถามว่าเวียดนามพร้อมยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ในปีนี้หรือไม่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า จะเกิดขึ้น "เมื่อถึงเวลา" โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่พวกเขามีอยู่แล้ว