ต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญยังยืดเยื้อ ตำรวจฝรั่งเศสยิงแก๊สน้ำตาคุมสถานการณ์

การประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญในฝรั่งเศส ขยับเข้าสู่วันที่ 9 ขณะที่สถานการณ์การประท้วงโดยทั่วไปเป็นไปอย่างสงบ แต่กลุ่มผู้นิยมอนาธิปไตย ได้ทุบทำลายหน้าต่างร้านค้า เสาไฟฟ้า ป้ายบอกทางและเครื่องหมายจราจรต่างๆ ป้ายชื่อถนน รวมถึงปล้นสะดมร้าน Fast-food อย่างแมคโดนัลด์ จนตำรวจปราบจลาจลต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดแสง (stun grenades)

Gerald Darmanin รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 149 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 172 คนทั่วประเทศ ผู้ประท้วงหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้หญิงคนหนึ่งในเมือง Rouen แคว้น Normandy ได้สูญเสียนิ้วหัวแม่มือไป

“มีพวกอันธพาลซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากฝ่ายซ้ายสุดซึ่งต้องการทำลายรัฐและสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ” Darmanin กล่าว ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงขนาดย่อมยังมีการปะทะกับตำรวจในกรุงปารีส และจุดกองไฟใจกลางเมืองอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงในเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเมือง Nantes, Lorien เมืองทางตะวันตก, Lille เมืองทางตอนเหนือ และใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ในเมือง Rennes ทางตะวันตกเฉียงเหนือ

ทางด้านสหภาพแรงงานเกรงว่าการประท้วงอาจรุนแรงขึ้นหากรัฐบาลยังไม่ใส่ใจต่อกระแสความโกรธของประชาชนที่มีต่อแผนปฏิรูปเงินบำนาญ

สหภาพแรงงานเรียกร้องให้มีการดำเนินการในระดับภูมิภาคในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและนัดหยุดงานประท้วงทั่วประเทศรอบใหม่ในวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่กษัตริย์ชาร์ลส์แห่งอังกฤษมีกำหนดจะเสด็จจากปารีสโดยรถไฟไปยังบอร์กโดซ์

การสำรวจความคิดเห็นเผยให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่คัดค้านกฎหมายปฎิรูปบำเหน็จบำนาญมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซึ่งความโกรธเกรี้ยวที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่รัฐบาลยัดเยียดการเปลี่ยนแปลงผ่านสภาล่างโดยไม่มีการลงคะแนนเสียง

ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ออกมาเผยถึงนโยบายใหม่หลังจากเก็บตัวเงียบเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเขายืนยันว่ากฎหมายปฏิรูปเงินบำนาญจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้