posttoday

UN ชี้ วิกฤต Climate Change เหมือนระเบิดเวลารอวันปะทุ

21 มีนาคม 2566

Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติเตือนว่า “ขณะนี้ วิกฤต climate change เหมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ พร้อมเรียกร้องให้ชาติร่ำรวยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังนักวิทยาศาสตร์ประเะมินว่าเราเหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิดในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เลขาธิการสหประชาชาติยังระบุเพิ่มเติมว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมานั้นสูงที่สุดในรอบ 2,000 ปี อีกทั้งความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 2 ล้านปี เสมือนระเบิดเวลาด้านสภาพอากาศกำลังที่อยู่ในช่วงคุกรุ่น

Guterres อธิบายรายงานฉบับที่หกของ IPCC ว่าเป็น "แนวทางการอยู่รอดสำหรับมนุษยชาติ" ซึ่งจะกระตุ้นให้ประเทศที่พัฒนาแล้วมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ก่อนปี 2040

ขณะที่ John Kerry ทูตด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ กล่าวว่า “เรามีเครื่องมือเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของผลกระทบอันเลวร้ายที่สุดที่เกิดจากวิกฤตสภาพอากาศ แต่เราต้องใช้ประโยชน์ในช่วงเวลานี้เพื่อเร่งดำเนินการทันที” 

จากข้อมูลของ IPCC การปล่อยก๊าซจะต้องลดลงครึ่งหนึ่งภายในกลางปี ​​2030 รวมถึงจำกัดอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ให้อยู่ในระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส โดย Hoesung Lee ให้ความเห็นว่า “หากเราลงมือแก้ไขตั้งแต่ตอนนี้ เราจะยังสามารถรักษาอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนได้" 

UN ชี้ วิกฤต Climate Change เหมือนระเบิดเวลารอวันปะทุ

อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในปัจจุบันสูงกว่าระดับในปี 1850-1900 ไปแล้ว 1.1 องศาเซลเซียส ซึ่งส่งผลทำให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้วขึ้นทั่วโลก

ด้วยวิถีโคจรของโลกในปัจจุบัน ดาวโลกกำลังอยู่ในวิถีที่อุณหภูมิจะอุ่นขึ้นอีก 3.2 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ และอุณหภูมิยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2.2 องศาเซลเซียส แม้ว่าจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้อยู่แล้วก็ตาม

รายงานจาก IPCC ยังระบุว่าโลกจำเป็นต้องเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสีเขียวและเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเกษตรและการบริโภคเพื่อลดการปล่อยมลพิษ ทั้งยังเตือนถึงผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำแข็งในอาร์กติกละลายจนกลายไปสู่จุดวิกฤตที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป ซึ่งประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของโลกมีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากสภาพอากาศอยู่แล้ว

ดังนั้น ทุกประเทศ ทุกภาคส่วน ในโลกของเราต้องเร่งลงมือดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมโดยเร็วที่สุด